"เฮลตี้ไทยแลนด์" ร ว บ ร ว ม น า น า ส า ร ะ ไ ป กั บ "นายกอฟ" เติมเต็มทุกเหตุการณ์ดีๆ
*** สามารถติดตามเคล็ดลับสุขภาพดีดีที่ไลน์แอดไอดี @HealthyThailand หรือคลิก http://line.me/ti/p/%40healthythailand อย่าลืมคลิกมีกิจกรรมสนุกๆรับของรางวัลด้วยน้า ^
วันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
คุณยายเปรม คนจนหัวใจแกร่ง มีความสุขแบบชีวิตติดดิน
คุณยายเปรม คนจนแต่ไม่เคยมองตนเองว่าจนไม่ดูถูกตนเอง เวลาคุยกับป้าแก ปา้่เขาจะยิ้มหัวเราะอารมณดี แม้อายุจะเกือบ 70 ปีแล้ว ทุกวันป้าจะมาอาบน้ำตรงก็อกที่ไว้สำหรับล้างพื้นที่สกปรกจากกองขยะข้างเมเจอร รังสิต แถมแกยังช่วยคัดแยกขยะเพื่อนำมาขาย ทำให้บริเวณที่ทิ้งขยะนี้เปนระเบียบ เพราะเด็กพนักงานเวลานำขยะมาทิ้ง จะเทแบบส่งๆ ส่งกลิ่นคละคลุ้ง ปกติยายจะมากับตา แต่ส่าัปดาห์ที่ผ่านมา ตาถูกรถมอไซตชนแล้วหนีขณะเก็บของเก่าขาย ส้วนยายเปนกระดูกทับเส้นเวลาเดินจะโก่งๆ ทุกเรื้องเปนการสนทนาแบบฟิลคุยถูกคอหน้าตายิ้มแย้มกับป้า แต่ข้างในใจลึกๆ น้ำตาซึม จริงๆหลังคุยกับป้า กลับรู้สึกว่าความสุขมันไม่ได้วัดกันที่รวยหรือจน บางครั้งคนรวยอาจจะทุกข์มากกว่าก็ได้ แอบอิจฉาคนจนในเวลานี้ ป้าเล่าให้ฟังว่า ทุกวันจะมีคนมาคุยกับป้า ชวนคุย ถ่ายรูปบ้างไม่รู้เค้าเอาไปทำไร บางคนก็ให้ตัง จริงๆแล้วก็พอใจกับความสุขแบบนี้ ชีวิตที่เรียบง่าย ไม่ต้องดิ้นรนอะไรมาก เวลาป้าไม่สบายป้าทำไง ป้าบอกก็เดินๆไปเรื่อยๆ ใช้บัตรสามสิบบาท โรงบาลอยู่ไม่ไกล อ้าวแล้วป้านอนไหน? ...( พิมพ์บนมือถือเมื่อย ค่อยมาเล่าใหม่คับ แต่อยากบอกว่า เวลาคุยกับคนที่เราอาจจะมองว่าลำบาก แต่บางครั้งเค้าเลือกแบบนี้ พอใจแบบนี้ มีความสุขแบบนี้ ความสุขมันไม่มีใครกำหรดได้เท่าหรีือเหมือนกัน ขอบคุณป้าที่มาแชร์เรื่องราวน่ารักๆให้ฟังครับ) : )์
ต่อ........อ้าวแล้วป้านอนไหน? ..ป้าก็นอนใต้สะพาน อ้อ.....สะพานที่กลับรถ ตอนนนั้นคิดได้ทันทีว่า ใต้สะพานอับๆมืดๆๆ มีกระต๊อบหลังเล็กๆ ทุกวันตอนทำงานประจำผมจะขับรถหรือนั่งวินผ่านเสมอๆๆ ไม่ค่อยได้สนใจอะไรมาก เพราะบางครั้งเห็นจนชินตา กับภาพคนเร่ร่อน พอวันนี้ได้มาสัมผัสชีวิตจริง ป้าได้เผยมุมมองชีวิตแบบทั้งที่ป้าเลือกและไม่ได้เลือกเอง สิ่งที่ป้าไม่ได้เลือกเองคือ............ ป้า ทำไมป้าไม่เรียนหนังสืออ่า ป้าบอก ไม่รู้เหมือนกัน ก็พ่อแม่เค้าไม่ได้ส่ง ไม่รู้เค้าคิดอาราย อ้าวแล้วป้ามีลูกบ้างไหมครับ ป้าบอก ลูกมีสองคน ตายหมดแล้ว เป็นไรตายอ่าครับป้า มันติดยาทั้งสองคนเลย ลงแดงตายทั้งสอง จริงๆป้าก็ส่งมันเรียนหนังสือนะ ถึงตั้งมศ.3 เมือ่ก่อนป้าทำงานอะไร ป้าก็เก็บขยะขายมาตั้งแต่อายุ 17 หา... 17 ทำไมป้ามาทำอะไรที่นี่อ่า ป้าบอกก ก็ย้ายตามอา อามาแต่งกับผู้ใหญ๋บ้านที่นี่ อ้าวววว.แล้วเขาไปไหนกันหมด ทำไมปล่อยป้าไว้แบบนี้ พวกเขาก็ตายกันไปหมดแล้ว แล้วป้ามาจากจังหวัดไหนครับ ป้าบอกมาจากอยุธยา มาที่นี่ตั้งแต่ 17 แล้วญาติป้าที่อยุธยามีบ้างไหมครับ .......ก็มีอยู่นะ ... หนูเอ้ย คนมันสมัยนี้ไม่เหมือนก่อน เค้าเห็นเราเป็นภาระ ไม่มีเงินให้พวกมัน มันก็ไม่ให้อยู่หรอก..................... ในใจโคตรหดหู่ สะอึก........... ในนาทีนั้นป้าก็พูดแบบตัดผ่าน เหมือนไม่ได้คิดอารายมาก เพระาคงคิดมานานจนไม่อยากคิดให้วุ่นวายใจ แต่สีหน้าแววตา ป้าก็ยังดูยิ้มแย้มร่าเริง ป้า..ป้าครับ ป้ากับตามีโรคประจำตัวอะไรไหม .......................... ก็มีแต่กระดูกนี่แหละ ตาก็ไม่มีอะไร ถ้าไม่ได้รถชน แล้วมีคนไปดูตาบ้างไหม ...ก็พาไปรพ นะ แต่คนชนมันหนี ให้ตำรวจตามก็เงียบไป .............. ในใจคิดถ้ามีใครคนนึงเป็นไรไป ใครจะอยู่อย่างไง ....ป้าป้า แล้วแถวนั้นมีคนอยู่อีกไหม .....ป้าบอกมีเยอะนะ เป็นสิบหลัง ....อ้าวแล้วอาบน้ำกันทีไ่หนครับ ........................อาบที่นั่นแหละ มีก็อกต่อมาอยู่ ป้าตอบด้วยความซื่อๆตรงๆ เค้าตอ่มาให้ สงสารคนจน ไม่ได้คิดตัง ..(ป้าหัวเราะ) ... ป้าๆ ป้าอาบน้ำตรงนี้ มีสบู่ไหม ...ป้าเตรียมมาด้วย ป้ามาเก็บขยะที่นี่ ก็อาบน้ำที่นี่เลย ง่ายดี......... ตาเหลือบไปเห็นถุงดำซ้อนกันหลายผืนแบบเป็นระเบียบที่รถเข็นแบบผุพัง มีถุงขนมห่อเล็กติดนิดหน่อย ........ป้าจูงมันแบบค่อยๆเดิน.
.......... ป้าจะกลับละนะ ไปดูตาก่อน ....ครับๆๆ วันหลังผมผ่านมา ผมมาอีกครับ............... ช่วงก่อนนั้นพูห์ก็คุยกับป้าอีกหลายเรื่อง เรื่องนึงคือ ป้าเก็บตังได้ เดือนละ 1000 บาท ป้าจะนำไปฝากหใ้กองทุนบ้านที่เทศบาลรังสิต เข้ามาจัดการว่าจะมีบ้านอาคารสงเคราะห์ให้คนจน ป้าบอกอยากมีบ้านเป็นของตนเองเหมือนกัน จึงนำเงงินจากเก็บขยะไปฝาก ได้สามปี ช่วงเหตุการณ์วุ่นวายการเมืองหรอือะไรไม่ทราบ โครงการถูกพับไป เค้าเอาเงินที่ป้ามาฝากเข้ากองทุนบ้านเพื่อหวังจะมีบ้านหรือห้องแถวเล็กๆอยู่ก็หมดไป แต่ป้าติดใจตรงที่ว่า เงินที่ฝาก กลับได้คืนมา ส่วนนึง โดนหักไป ร้อยละ 5 .... ป้า แล้วเค้าหักไปทำอะไร ..ป้าตอบ ก็ไม่รู้เหมือนกัน เค้าหักไป ร้อยละ 5 ......ในใจเคืองๆๆๆ แต่ก็พูดติดตลกก ..โหหหหหหหหห งั้นป้าก็มีตังอีก30000 เชียวนะ 55+ .................. ป้าบอก อืมก็รออยู่ว่าจะได้ แต่เห็ฯว่าหัก ..... เพือ่นบ้านก็โดนกันหมด .............เห้อ คนจนนี่ ต้องมีอะไรถูกกดขี่อยู่ตลอดเลย เพราะอำนาจในมืออันน้อยนิด ......... ..................... ที่เล่ามาทั้งหมด ในใจพูห์หรือความรู็สึกของเรา ถ้าเป็นเราคงคับแค้นใจไม่น้อย แต่ในทุกนาทีที่ได้คุยกับป้า ป้าเค้าจะพูดแบบคนจนที่พูดแบบซือ่ๆ มีอะไรก็พูดแบบไม่ปกปิด ความน่ารัก มันออกมาไม่เหมือนแบบนิสัยคนรวยเวลามาซื้อยาต่อราคาแบบหาที่เปรียบไม่ได้ ป้าเขาไม่เคยดูถูกตนเอง และไม่ได้โทษใคร ไม่ไ้ด้น้อยเนื้อต่ำใจ ไม่ได้โทษใคร ป้าเขาก็ทำตามกำลังที่เขาทำได้ แต่สิ่งที่หาได้อีกอย่างคือ ชีวิตคู่ของตากับยายที่รักกัน ไม่ทิ้งกัน แม้อีกคนจะป่วยหนักเป็นภาระให้อีกคนก็ตาม และอีกสิ่งหนึ่งทีไ่ด้รับ ป้าไม่เคยแบมือขอตังใคร และป้าก็ภูมิใจที่ได้เก็บขยะขาย โดยไม่ได้เบียดเบียนใคร ป้าไม่รู้ว่าโลกภายนอกจะวุ่นวายซับซ้อนขนาดไหน ป้าแค่ทำในส่วนที่ตนทำได้ ซึ่งป้าก็ไม่ได้เป็นภาระของสังคมแต่อย่างใด
ก็ยังมีเรือ่งฮาๆ ที่ป้าเล่าอีกเช่น อีพวกนักเลงมันมาทะเลาะกัน ปาระเบิด ข้ามหัวป้าไป ที่ป้ายังรอดได้ เพระาว่าป้ายังมีคุณตาที่ยังอยู่ คริๆๆๆ น่ารักมะ ป้าบอก ป้าเจอบ่อยมาก ป้าชิน
อุปสรรคที่ทายาทเจ็นวายกำลังเผชิญในระยะข้างหน้า
ธุรกิจครอบครัวถือเป็นฟันเฟืองที่สำคัญของเศรษฐกิจโลก โดยมีสัดส่วนคิดเป็น 30% ของบรรดาธุรกิจโลกระดับพันล้าน และยังเป็นรากฐานในการขับเคลื่อนสังคมและระบบเศรษฐกิจมหภาค โดยมีธุรกิจและรายได้รวมกันคิดเป็น 70-90% ของจีดีพีโลก
อุปสรรคที่ทายาทเจ็นวายกำลังเผชิญในระยะข้างหน้า คือ การสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ตนเอง (Credibility Gap) โดยทายาทผู้ถูกสำรวจถึง 88% กล่าวว่า พวกเขาต้องทำงานหนักกว่าคนอื่นๆ เพื่อพิสูจน์ว่า ตนมีความพร้อม และมีคุณสมบัติที่แท้จริงในการสืบทอดกิจการ นอกจากนี้ทายาทเจ็นวายเกือบ 60% ยังระบุว่าการได้รับการเคารพนับถือจากเพื่อนร่วมงานก็ถือเป็นความท้าทายที่ยากลำบากที่สุดอีกประการหนึ่ง
อ่านผลการศึกษาPwC ....Bridging the gap: Handing over the family business to the next generation
http://thaipublica.org/2014/05/pwc-handing-over-the-family-business-to-the-next-generation/
อุปสรรคที่ทายาทเจ็นวายกำลังเผชิญในระยะข้างหน้า คือ การสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ตนเอง (Credibility Gap) โดยทายาทผู้ถูกสำรวจถึง 88% กล่าวว่า พวกเขาต้องทำงานหนักกว่าคนอื่นๆ เพื่อพิสูจน์ว่า ตนมีความพร้อม และมีคุณสมบัติที่แท้จริงในการสืบทอดกิจการ นอกจากนี้ทายาทเจ็นวายเกือบ 60% ยังระบุว่าการได้รับการเคารพนับถือจากเพื่อนร่วมงานก็ถือเป็นความท้าทายที่ยากลำบากที่สุดอีกประการหนึ่ง
อ่านผลการศึกษาPwC ....Bridging the gap: Handing over the family business to the next generation
http://thaipublica.org/2014/05/pwc-handing-over-the-family-business-to-the-next-generation/
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)