"ประชาชาติธุรกิจ" เก็บประเด็นที่น่าสนใจ สำหรับผู้ประกอบการที่กำลังหาช่องทางในการผลิต สินค้า-บริการ มานำเสนอ
หญิงสาววัย 20-29 ปี เป็นวัยเรียนประสบการณ์ยังน้อย ไม่เป็นตัวของตัวเอง และชอบอ้างอิงกลุ่มเพื่อนหรือกระแสสังคม
แรงจูงใจคือ 1.ชอบแสวงหา ชอบลองของใหม่ ไกลแค่ไหนก็จะลอง 2. ชอบคุณภาพและช่างเลือก ในหมวดของส่วนตัวจึงมากกว่า 1 ชนิด เช่น ยาสีฟัน เธออาจจะใช้ดาร์ลี่ ตอนเช้าเพราะสดชื่น ใช้เดนทิสเต้ช่วยเรื่องกลิ่นปากน้อย เซ็นโซดายน์ ดูแลเหงือก ฟันขาว แชมพูก็จะใช้สลับๆ กัน 3.ระวังเรื่องสุขภาพ หลีกเลี่ยงสิ่งไม่ดี เช่น กินชาเขียวร้อนมากกว่าเย็น ไม่ทานชาเขียวเพราะหวานไป 4.เนื่องจากยังไม่มีรายได้ของตัวเอง จึงเลือกสิ่งที่คุ้มค่า ราคา และของดี แต่ถ้าแพงไปก็ไม่เอา 5.บริโภคตามความเคยชิน จากอิทธิพลของครอบครัว บางส่วนก็มาจากเพื่อน เช่น ความรู้เรื่องไอที ก็จะให้เพื่อนแนะนำ
ดังนั้น ถ้าจะผลิตสินค้าบริการ ประชาสัมพันธ์ถึงคนกลุ่มนี้ 1.พวกเธอเพิ่งเริ่มงาน อยากดูดี ชอบสินค้าดี คุ้มราคา ภาพลักษณ์ต้องดี 2.พวกเธอใกล้ชิดเพื่อน ชอบสินค้าที่โชว์เพื่อนได้ ไม่ตกเทรนด์ 3.ระวังเรื่องสุขภาพ 4.แบรนด์ต้องมีความหลากหลาย เพราะเป็นคนขี้เบื่อช่างเลือก
ชายวัย 20-29 ปี วัยเรียน วัยทำงานตอนต้น ประสบการณ์ยังน้อย จะสนใจสิ่งที่ตนเองให้ความสำคัญมาก แต่ถ้าไม่สนใจจะไม่คิดอะไร
แรงจูงใจคือ 1.มีความสนใจเจาะจง 2.ชอบซื้อของตามความเคยชิน ไม่คิดมาก 3.ไม่ใส่ใจ เลยไม่เปลี่ยนแปลงอะไร เช่น ใช้เบอร์มือถือค่ายนี้ตลอดก็ใช้ต่อไป เสียดายอายุเบอร์ 4.ซื้อของตามความสะดวก สิ่งที่ชอบ แต่ซื้อลำบากก็ไม่เอา ซื้อสิ่งที่เจอและพบง่ายๆ เช่น 7/11 เพราะสะดวกดี 5.ใส่ใจสุขภาพแต่ก็ตามใจตัวเอง เช่น ไปตรวจคอเลสเตอรอลทุกปี พบว่าถ้าไม่เป็นไร ก็จะกินทุกอย่าง ไม่คิดที่จะออกกำลังกาย แต่ก็ออกได้ 6.เน้นความคุ้มค่า เช่น กินเคเอฟซี เพราะชอบไก่ ถูกกว่าฟู้ดคอร์ด ชอบฮอนด้าซีอาร์-วี เพราะทน อะไหล่ถูก 7.ของใช้ส่วนตัว ของใช้ในบ้านได้รับอิทธิพลจากครอบครัว พ่อแม่พี่น้องคอยเลือกให้ และบางส่วนก็ตามเพื่อน
ถ้าจะสื่อสารกับคนกลุ่มนี้ เน้นที่ครอบครัว เน้นความสะดวก พยายามนำสินค้าเข้าไปอยู่ในสายตาของเขา และหาผู้นำที่เขาจะทำตาม
หญิงวัย 30-39 ปี เป็นตัวของตัวเอง ใส่ใจสุขภาพ ละเอียดรอบคอบ
พฤติกรรมในวัยนี้ 1.เธอจะไม่ตามกระแส เลือกได้แล้วว่าชอบอะไร เช่น สินค้าก็จะอ่านฉลากหาข้อมูลก่อนตัดสินใจ 2.พอเจอแล้วถูกใจ ก็จะเปลี่ยนใจยาก แต่ก็สามารถรักได้หลายแบรนด์ 3.เลือกที่คุณภาพนำหน้า โปรโมชั่นถ้ามีก็เยี่ยม แต่ถ้าไม่ใช่สินค้าที่ตัวเองชอบ ถึงมีโปรก็ไม่ซื้อ
ถ้าจะสื่อสารในคนกลุ่มนี้จะต้อง มีข้อมูลที่มีประโยชน์ มีรายละเอียด เชื่อถือได้ และมีฟังก์ชั่นที่ทำให้นำไปใช้ได้หลากหลาย สร้างความสนุกในชีวิต
ชายวัย 30-39 ปี ยังโตช้า และยังใช้สินค้าตามครอบครัว ติดแฟน อยู่กับเพื่อนเฉพาะช่วงเวลาสำคัญ เช่น งานเลี้ยงสังสรรค์ เที่ยว และเป็นวัยที่มีความสนใจเฉพาะทาง
พฤติกรรมในวัยนี้ 1.ชายวัยนี้จะเป็นคนที่ "อะไรก็ได้" ในการใช้สินค้าส่วนตัว เช่น สบู่ ยาสีฟัน แยกไม่ออก ใช้ตามครอบครัว 2.ทำอะไรตามความเคยชิน เช่น เวลาตื่น กิน ออกจากบ้าน กลุ่มนี้จะใช้สินค้าเพราะคุ้นหู ได้ยินตั้งแต่เด็ก และจากครอบครัว 3.ถ้าสนใจอะไร ก็จะรู้ละเอียดมาก ทั้งคุณสมบัติและข้อดีข้อเสียของแต่ละแบรนด์ ถ้าจะสื่อสารถึงคนกลุ่มนี้ ก็ต้องมีลูกเล่นสินค้า รายละเอียดข้อมูลมาก 4.เป็นคนที่คำนึงถึงราคาและโปรโมชั่นเสมอ เช่น ซื้อหนึ่งแถมหนึ่งเพราะกินและใช้อยู่แล้ว แต่ที่ซื้อเพราะสะดวกไม่ต้องซื้อบ่อย
หญิงวัย 40-55 ปี กลุ่มนี้ลักษณะเด่น ตื่นตีห้า กิจวัตร แต่งตัวพาลูกไปโรงเรียน จากนั้นทำงาน แวะซื้อกับข้าวกลับบ้าน กินข้าวเย็น เสาร์-อาทิตย์ ทำงานบ้าน สามีส่งลูกไปเรียนพิเศษ วันหยุด ไปตลาด เล่นกีฬากับลูก
พฤติกรรมในวัยนี้ 1.เน้นเรื่องสุขภาพ เพราะมีประสบการณ์ในการซื้อ จึงเลือกแต่ของที่มีคุณภาพ 2.ไม่ซื้อและไม่ใช้เพราะถ้าเกิดความระแวง ไม่ว่าอย่างไรจะหาของที่ดีที่สุดเสมอ 3.ถ้าจะสื่อถึงกลุ่มนี้ ต้องเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างไม่หยุดยั้ง แตกแบรนด์ใหม่ๆ และมีคุณสมบัติที่ดี เพื่อดึงดูดใจ
4.คุณประโยชน์มาก่อนโปรโมชั่น 5.สื่อสารอย่าซับซ้อน เข้าใจง่ายๆ 6.ได้ใจด้วยความดี เช่น การที่แบรนด์ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม ซีเอสอาร์ การจัดกิจกรรมเพื่อสังคม 7.สมบูรณ์แบบ ครบดี เป็นที่พึ่ง เช่น เรื่องของการทำประกันชีวิต ก็จะมีการหาข้อมูลจากโฆษณา เพื่อน ครอบครัว พนักงานขายและอินเทอร์เน็ต ก่อนตัดสินใจด้วยตัวเอง
ชายวัย 40-45 ปี ตื่น 7 โมงเช้า กินข้าวออฟฟิศ ทำงานจนดึก เสาร์ อาทิตย์รับจ็อบ ออกกำลังกายบ้าง สัปดาห์ละครั้ง กลุ่มนี้มีการงานมั่นคง มีความกังวลในชีวิต ใช้เวลากับครอบครัวและออกจะเหนื่อยล้าอยู่สักหน่อย
แรงกระตุ้นของวัยนี้มาจาก 1.ยังฝังใจกับแบรนด์วัยเยาว์ การสื่อสารถึงกลุ่มนี้ต้องคงเอกลักษณ์ของแบรนด์ไว้ 2.เวลาสำคัญ เพราะทุ่มเทกับงาน ต้องพยายามสื่อสารสินค้าบริการที่เสียเวลาน้อยที่สุด รวมศูนย์ใช้งานง่าย ขั้นตอนน้อย 3.งานคือหัวใจ มีผลต่อทุกอย่าง เช่น ใช้โน้ตบุ๊กยี่ห้อนี้ เพราะทนทาน สมราคา เดินทางไกลจะใช้มือถือสัญญาณเอไอเอส เพราะเป็นแบรนด์เดียวที่มีสัญญาณบนดอย เป็นต้น จะไม่ใช้สินค้าที่มีผลลบต่ออาชีพ
การสื่อสารหรือการออกแบบสินค้าบริการจะต้องช่วยให้คนกลุ่มนี้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน สินค้ามีความคงทน มีการรับประกันหลังการขาย ในเรื่องอาหาร คนกลุ่มนี้ทำงานหนักเพื่อครอบครัว จึงใช้เวลาในการกินอาหาร และดื่มที่ตัวเองชื่นชอบ โดยไม่คำนึงถึงสุขภาพ ขณะที่การเลือกรถยนต์ เน้นภาพลักษณ์ ดีไซน์หรู
เหล่านี้เป็นพฤติกรรมของผู้อุปโภคบริโภคในช่วงวัยต่างๆ กัน
"เฮลตี้ไทยแลนด์" ร ว บ ร ว ม น า น า ส า ร ะ ไ ป กั บ "นายกอฟ" เติมเต็มทุกเหตุการณ์ดีๆ
*** สามารถติดตามเคล็ดลับสุขภาพดีดีที่ไลน์แอดไอดี @HealthyThailand หรือคลิก http://line.me/ti/p/%40healthythailand อย่าลืมคลิกมีกิจกรรมสนุกๆรับของรางวัลด้วยน้า ^
วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2558
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น