สงกรานต์นี้ ระวัง ‘ดินสอพอง’ ไว้ให้ดี !!
เทศกาลสงกรานต์ เป็นเทศกาลปีใหม่ไทยที่ทุกคนรู้จักกันดี และเนื่องจากเทศกาลนี้ตรงกับช่วงเดือนเมษายนที่เต็มไปด้วยความร้อนแรงของแสงแดด จึงทำให้เกิดเป็นประเพณีการเล่นน้ำสงกรานต์ควบคู่กันมาด้วย และนอกเหนือจากอุปกรณ์การเล่นน้ำอย่างปืนฉีดน้ำ ขันน้ำ หรือสายยางฉีดน้ำแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่คนไทยขาดไม่ได้เลย ก็คือ “ดินสอพอง” ที่นิยมนำมาใช้เพื่อปะหน้าปะตา อันเป็นสัญลักษณ์ที่เคียงคู่มากับประเพณีที่มีมาตั้งแต่ดั้งเดิม แต่คุณรู้หรือไม่ว่า “ดินสอพอง” ที่กำลังใช้อยู่ทุกวันนี้ อาจจะนำโทษภัยร้ายแรงมาสู่ตัวคุณแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลยก็ได้
หากจะพูดถึงดินสอพอง หลายๆคนก็คงจะนึกถึงแป้งทาหน้าสีขาวข้นที่นิยมใช้ปะหน้าเพื่อให้ร่างกายเย็นสบาย ช่วยป้องกันแสงแดด มีสรรพคุณในการกำจัดสิวเสี้ยน ลดอาการปวดบวมจากการอักเสบ ช่วยปรับสภาพผิว หรือนำไปผสมกับสมุนไพรอื่นๆเพื่อขัดผิว ขัดตัว หรือพอกหน้า ซึ่งการที่แป้งดินสอพองจะมีคุณสมบัติเช่นนี้ได้ จะต้องเป็นดินสอพองที่มีกระบวนการผลิตที่สะอาด และมีการตรวจเชื้อจุลินทรีย์ให้ผ่านตามเกณฑ์มาตรฐาน แต่หากเป็นแป้งดินสอพองที่เราใช้ปะหน้าเล่นสงกรานต์กันอยู่ทุกวันนี้ อาจจะไม่ค่อยมีสรรพคุณที่ว่านี้เสียเท่าไร เนื่องจากแป้งเหล่านี้ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบปริมาณของเชื้อจุลินทรีย์ให้ได้ตามปริมาณที่เหมาะสม และการใช้แป้งดินสอพองที่แช่ทิ้งไว้นานเกินไป ก็ยิ่งเป็นตัวกระตุ้นให้มันส่งผลร้ายที่เป็นอันตรายต่อผิวหนังและร่างกายของเราอย่างนึกไม่ถึงได้เช่นกัน เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้นเรามีคำตอบมาให้คุณแล้วค่ะ
การตรวจวิเคราะห์ถึงอันตรายของแป้งดินสอพองนี้ ทำโดยการสุ่มตรวจคุณภาพของดินสอพองที่วางขายตามสถานที่ต่างๆ และผลที่พบก็แสดงให้เห็นว่า ส่วนผสมของดินสอพองนอกจากจะมีแป้งเป็นส่วนประกอบหลักแล้ว ยังตรวจพบการปนเปื้อนของยีสต์ แบคทีเรีย และเชื้อรา อยู่ในปริมาณที่มากเกินกว่าที่มาตรฐานจะยอมรับได้ ยกตัวอย่างเช่น ‘จุลินทรีย์คลอสตริเดียม สปอร์โรจีเนส’ และ ‘คลอสตริเดียม เพอร์ฟริงเจนส์’ ซึ่งเป็นกลุ่มจุลินทรีย์คลอสตริเดียมที่สามารถสร้างสปอร์และสารพิษได้หลายชนิด ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการตรวจพบเชื้อโรคอันตรายที่ก่อให้เกิดโรคบาดทะยัก ซึ่งเป็นผลเสียร้ายแรงต่อสุขภาพของมนุษย์ได้อีกด้วย
ตามที่บอกไปแล้ว ดินสอพองโดยปกติจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ ‘ประเภทที่เป็นวัตถุดิบสำหรับโรงงาน ใช้ผลิตภัณฑ์อื่นที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ’ และ ‘ประเภทที่ใช้เป็นเครื่องสำอางหรือใช้สัมผัสร่างกายโดยตรง’ ซึ่งจัดเป็นเครื่องสำอางตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ.2535 ซึ่งการจะเป็นเครื่องสำอางได้จะต้องได้รับการปรับปรุงให้มีคุณภาพตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขด้วย กล่าวคือ จะต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐานของเครื่องสำอางตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ที่กำหนดให้มีจุลินทรีย์ไม่เกิน 1,000 โคโลนีต่อกรัม และมีสารหนูได้ไม่เกิน 2 ไมโครกรัมต่อกรัม
เชื้อโรคเหล่านี้หากอยู่ในสภาวะที่ไม่เหมาะสม มันก็คงไม่สามารถทำร้ายอะไรเราได้เท่าไรนัก แต่สำหรับในแป้งดินสอพองละลายน้ำนั้น ถือเป็นแหล่งอาหารที่ค่อนข้างเหมาะสมของเชื้อโรคร้ายทั้งหลายเลยทีเดียว อีกทั้ง ยังทำให้พวกมันขยับเข้าไปใกล้กับการใช้ชีวิตของมนุษย์มากยิ่งขึ้นอีกด้วย ทำให้เชื้อดังกล่าวสามารถเข้าไปอาศัยและฟูมฟักตัวเองอยู่ภายในร่างกายของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี และนั่นก็ย่อมส่งผลให้ร่างกายเกิดอาการอาหารเป็นพิษตามมาได้ง่ายนั่นเอง มากไปกว่านั้น หากมีการสะสมของเชื้อโรคเหล่านี้ในปริมาณที่มาก ก็อาจจะส่งผลร้ายแรงต่อร่างกายจนทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด กล้ามเนื้อตาย ติดเชื้อในเนื้อเยื่ออ่อน และส่งผลให้อันตรายถึงชีวิตได้ในที่สุด
นอกจากนี้ บางครั้งยังมีการนำเอาแป้งดินสอพองมาผสมสีบางชนิดเพื่อให้มีสีสันสดใส ซึ่งดินสอพองที่ผสมสีเหล่านี้ไม่ใช่ดินสอพองแท้ หรืออาจเรียกว่าเป็นดินสอพองปลอมก็ได้ โดยในดินสอพองปลอมเหล่านี้จะมีส่วนผสมของยิปซั่ม ซึ่งเป็นสารเคมีที่ค่อนข้างอันตราย และใช้เป็นวัสดุที่เหมาะสมต่อการทำฝ้าเพดาน ผลิตกระดาษ พลาสเตอร์ หรือซีเมนต์ มากกว่าการใช้สัมผัสผิวหนัง ดังนั้น หากแป้งดินสอพองประเภทนี้เข้าตา ก็จะทำให้รู้สึกระคายเคืองและกัดกร่อนดวงตาอันแสนบอบบางของเราได้ ส่วนไอระเหยจากแป้งดินสอพองประเภทนี้ก็เป็นอันตรายต่อร่างกายได้เช่นกัน หากมีการสูดดมเข้าไปเป็นระยะเวลานานๆ อาจจะส่งผลให้ปอดทำงานผิดปกติ และส่งผลให้เกิดการติดเชื้อจนเป็นโรคปอดเรื้อรังได้
ในด้านของการระคายเคืองของผิวหนัง แป้งดินสอพองก็มีผลให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังทำให้เกิดผดผื่นคันได้เช่นกัน ทั้งนี้เกิดจากการที่แป้งดินสอพองมีการผสมสีสังเคราะห์ลงไป และภายในสีสังเคราะห์เหล่านี้ก็จะมีสารประกอบของอะโรมาติกเอมีน ซึ่งส่งผลต่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพผิวจนก่อให้เกิดเป็นมะเร็งผิวหนังได้
การจะควบคุมสินค้าดังกล่าวที่วางขายอยู่เกลื่อนท้องถนน เป็นสิ่งที่ทำได้ค่อนข้างยาก เพราะถึงแม้จะตรวจยึดไปได้แล้ว ก็ยังคงมีผู้ผลิตรายอื่นๆที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีกลับมาผลิตขายได้อีกอยู่ดี ดังนั้น สิ่งที่ดีที่สุด ก็คือ การเพิ่มความระมัดระวังของผู้บริโภคในการเลือกซื้อดินสอพองที่มีคุณภาพ โดยสังเกตจากแหล่งผลิตที่น่าเชื่อถือได้ เช่น ผลิตภัณฑ์ OTOP ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) เป็นต้น อีกทั้ง ไม่นำเอาดินสอพองที่มีสีสันฉูดฉาดมาใช้ เพียงเท่านี้ ก็ทำให้คุณปลอดภัยจากจากใช้ดินสอพองมากขึ้นได้แล้วละค่ะ
------------------------------------------------------------------------------------
ติดตามเราเป็นเพื่อนเฟสบุค http://www.facebook.com/HealthyThailandCenter
ติดตามกูรูด้านสุขภาพทางไลน์ http://line.me/ti/p/%40HealthyThailand
สนใจสินค้าสุขภาพและความงาม http://goo.gl/oogIL8