คลื่นไมโครเวฟ..อันตรายแค่ไหนกัน
เชื่อแน่ๆว่า ทุกๆวันนี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก ‘ไมโครเวฟ‘ เครื่องใช้ไฟฟ้าแสนสำคัญในยุคปัจจุบัน เพราะนอกจากที่ไมโครเวฟจะสามารถอุ่นอาหารให้ร้อนได้แล้ว ในปัจจุบันยังได้มีการพัฒนาโปรแกรมพิเศษ เพื่อทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องนี้ สามารถทำได้มากไปกว่าการเป็นเพียงแค่อุปกรณ์อุ่นร้อน ใครอยากจะหุงข้าว อบขนมเค้ก หรือสร้างสรรค์เมนูแสนวิเศษที่แปลกใหม่ ก็สามารถใช้อุปกรณ์ชิ้นนี้ได้ทั้งสิ้น หรืออาจเรียกได้ว่า ชีวิตของเราคงจะอยู่ได้อย่างยากลำบากมาก หากวันใดวันหนึ่งไมโครเวฟที่เคยมีเกิดใช้การไม่ได้ขึ้นมา
ไมโครเวฟเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้การได้ง่ายและไม่ยุ่งยาก ทำให้คนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะคนที่อาศัยอยู่ตามหอพักหรือคอนโดมิเนียม นิยมที่จะหาซื้อเครื่องมือชิ้นนี้เอาไว้ติดห้อง และด้วยความที่เราคลุกคลีกับการใช้ไมโครเวฟมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เราลืมไปว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้ก็อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพของเราได้เช่นกัน เพราะมันเป็นเครื่องมือที่สามารถปลดปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกมาได้ และการใช้งานไมโครเวฟที่ไม่ถูกต้อง ก็มีผลสำคัญที่ทำให้ร่างกายได้รับอันตรายได้เช่นกัน
ก่อนจะไปทำความรู้จักกับอันตรายของคลื่นไมโครเวฟ ต้องมารู้กันก่อนว่า “คลื่นชนิดนี้คืออะไร?” คลื่นไมโครเวฟ ก็คือ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความถี่สูง ทำให้สามารถเดินทางทะลุผ่านวัตถุที่ไม่ใช่โลหะ เช่น แก้ว หรือพลาสติก ได้ แต่หากพบเจอกับโลหะก็จะทำให้เกิดการสะท้อนของคลื่นไมโครเวฟได้ทั้งหมด ส่วนวัตถุที่มีความชื้นอยู่ภายใน เมื่อพบเจอกับคลื่นไมโครเวฟ วัตถุเหล่านั้นก็จะดูดกลืนพลังงานของไมโครเวฟเอาไว้ และคายออกมาในรูปแบบของความร้อน ไม่เว้นแม้แต่ร่างกายของคนเราที่สามารถดูดกลืนคลื่นชนิดนี้เอาไว้ได้เช่นกัน
ทีนี้ หลายคนก็คงจะเริ่มสงสัยแล้วใช่หรือไม่ค่ะ ว่าถ้าร่างกายของเราได้รับคลื่นไมโครเวฟเข้าไปแล้ว จะก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายอย่างไร คำตอบก็คือ การที่เราได้รับคลื่นไม่โครเวฟเข้าไปในปริมาณน้อย คลื่นชนิดนี้ก็คงไม่สามารถทำอะไรเราได้ แต่ในกรณีที่ร่างกายได้รับคลื่นไมโครเวฟเข้าไปในปริมาณสูง ก็ย่อมจะทำให้เกิดความร้อนในร่างกายได้ ซึ่งความร้อนที่สูงเกินไปนี้อาจจะมีผลต่อการทำลายเนื้อเยื่อที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้เกิดการไหม้ของเนื้อเยื่อได้ ส่วนผลของการก่อให้เกิดมะเร็งนั้น ยังไม่มีการยืนยันจากผลการวิจัยที่แน่นอน ว่าผลกระทบจากการรับคลื่นไมโครเวฟในปริมาณเท่าใด จึงจะส่งผลให้ร่ากายของเราเกิดโรคมะเร็งได้
ส่วนใครที่กังวลไปว่าการเปิดปิดเตาไมโครเวฟบ่อยๆนั้น จะส่งผลให้คลื่นไมโครเวฟออกมาสัมผัสกับผิวหนังของเราได้มากขึ้นหรือไม่ ก็ต้องบอกไว้เลยว่า ไมโครเวฟทุกเครื่องถูกออกแบบให้ตัดคลื่นไมโครเวฟทุกครั้งที่เราปิดสวิตช์ หรือตัดการผลิตไมโครเวฟทันทีที่ประตูของเครื่องถูกเปิดออก เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่เปิดเตา เราจึงมั่นใจได้ว่าจะไม่มีคลื่นไมโครเวฟใดๆหลงเหลืออยู่ในอาหาร หรืออยู่ในเครื่องไมโครเวฟอย่างแน่นอน การเปิดปิดฝาตู้หรือการเอามือยื่นเข้าไปหยิบอาหารออกมา จึงมีความปลอดภัย และไม่ทำให้ร่างกายได้รับคลื่นไมโครเวฟมากขึ้นแต่อย่างใด
แล้วการจ้องมองแสงสว่างในขณะที่ไมโครเวฟกำลังทำงานละ จะเป็นอันตรายต่อดวงตาของเราหรือไม่? คำเฉลยนี้คงทำให้คุณสบายใจขึ้นได้อย่างแน่นอน เพราะแท้ที่จริงแล้วแสงที่อยู่ภายในเครื่องไมโครเวฟ ไม่ใช่แสงจากคลื่นไมโครเวฟแต่อย่างใด แต่เป็นแสงของดวงไฟฟ้าที่ติดตั้งเอาไว้ เพื่อให้ผู้ใช้งานได้มีโอกาสสังเกตการเปลี่ยนแปลงของอาหารในขณะที่เครื่องกำลังทำงานเท่านั้นเอง และคลื่นไมโครเวฟก็ไม่สามารถเดินทางทะลุผ่านผนังตู้และฝาตู้ออกมาได้ ยกเว้นเสียแต่ว่าเครื่องไมโครเวฟเกิดการชำรุด จนทำให้คลื่นไมโครเวฟหลุดรอดออกมาภายนอกเท่านั้นเอง
ส่วนใครที่ใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจและจำเป็นต้องใช้ไมโครเวฟ ก็สามารถสบายใจได้ เพราะเครื่องกระตุ้นการทำงานของหัวใจนี้ จะไม่มีผลกระทบหรือได้รับผลกระทบจากการทำงานของไมโครเวฟแต่อย่างใด หากเครื่องไมโครเวฟเครื่องนั้นมีความสมบูรณ์ และไม่เกิดการรั่วไหลในระดับที่เกินมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม หากสามารถหลีกเลี่ยงการใช้งานได้ ก็ย่อมจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า
เพิ่มเติมสักนิดสำหรับวิธีการในการดูแลเครื่องไมโครเวฟ สิ่งสำคัญที่สุดที่ควรทำ ก็คือ การดูแลเรื่องความสะอาดทุกครั้งหลังการใช้งาน ซึ่งควรที่จะต้องเช็ดทำความสะอาดเครื่องอย่างสม่ำเสมอ และอย่าปล่อยให้เศษอาหารติดค้างอยู่ในตู้เป็นระยะเวลานาน เพราะอาหารเหล่านี้อาจส่งผลให้เหล็กภายในตู้เกิดการขึ้นสนิม และทำให้เกิดเป็นรอยทะลุจนทำให้คลื่นไมโครเวฟรั่วออกมาภายนอกได้ อย่างไรก็ตาม การเช็ดทำความสะอาดตู้ก็ต้องทำด้วยความอ่อนโยน และห้ามใช้ของมีคมขูดหรือขัดตู้เป็นอันขาด เพราะอาจทำให้เครื่องชำรุด และเกินการรั่วของคลื่นไมโครเวฟออกมาได้เช่นกัน
แน่นอนว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นนี้ สามารถช่วยให้ชีวิตของคุณง่ายและสะดวกรวดเร็วมากขึ้น แต่หากต้องการอยากจะใช้ไมโครเวฟไปได้นานๆ และรู้สึกถึงความปลอดภัยมากที่สุดแล้วละก็ ก็ต้องอย่าลืมที่จะเลือกซื้อเครื่องไมโครเวฟที่มีมาตรฐาน มีการรับรองคุณภาพ และศึกษาวิธีการใช้หรือการดูแลรักษาเครื่อง ก่อนการลงมือปฏิบัติจริงทุกครั้ง เพื่อให้คุณสามารถใช้เครื่องมือชนิดนี้ได้อย่างปลอดภัย และมีความสุขกับการใช้ชีวิตที่สะดวกรวดเร็วได้มากที่สุดนั่นเอง
------------------------------------------------------------------------------------
ติดตามเราเป็นเพื่อนเฟสบุค http://www.facebook.com/HealthyThailandCenter
ติดตามกูรูด้านสุขภาพทางไลน์ http://line.me/ti/p/%40HealthyThailand
สนใจสินค้าสุขภาพและความงาม http://goo.gl/oogIL8
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น