รักษารากฟัน..จำเป็นมากแค่ไหน
เชื่อว่าปัญหาเรื่องฟัน เป็นเรื่องที่ทำให้คุณเสียเงินไปกับมันไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นค่าขูดหินปูน ค่าอุดฟัน ค่าถอนฟัน รวมไปถึงค่ารักษารากฟัน ที่หลายคนต่างจำเป็นต้อควักกระเป๋าจ่าย เพื่อแลกมากับรอยยิ้มสวยๆที่คุณต้องการ ทำไมเราต้องเสียเงินมากมายขนาดนี้ และจำเป็นหรือไม่กับการลงทุนเพื่อสุขภาพฟันที่ดี ใครยังมีคำถามค้างคาใจจะได้ทราบคำตอบกันวันนี้เลย
หลายคนมักมีคำถามในใจอยู่เสมอว่า “จำเป็นหรือไม่ที่ต้องเสียเงินรักษารากฟันเป็นหมื่นๆ เมื่อเปรียบเทียบกับการถอนฟันราคาไม่กี่ร้อย“ อะไรคุ้มค่ามากกว่ากัน? และเมื่อใดที่ควรถอนฟัน หรือเมื่อใดที่ควรรักษารากฟัน? เรารวบรวมข้อดีข้อเสียที่คุณต้องรู้มาเสิร์ฟให้แก่คุณตอนนี้แล้วละค่ะ
ก่อนอื่นขออธิบาย “การรักษารากฟัน” กันก่อน
ข้อดีของวิธีการนี้ ก็คือ ฟันที่มีปัญหาจะหายดีและยังอยู่กับเราตลอดไป โดยฟันซี่นั้นจะไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดต่อไปอีกแล้ว เพราะเราได้กำจัดเอาเส้นประสาทที่เชื่อมต่อออกไปหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม เรายังสามารถใช้งานฟันซี่นั้นในการบดเคี้ยวอาหารได้เหมือนปกติ ในทางตรงกันข้าม ข้อเสียของการรักษารากฟันอยู่ที่ค่าแรงของทันตแพทย์ เพราะในขั้นตอนการรักษารากฟันต้องใช้ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเท่านั้น และใช้เวลาหลายรอบกว่าจะสามารถรักษารากฟันได้สำเร็จ ทำให้ราคาการรักษาค่อนข้างสูง

การรักษารากฟันมีขั้นตอนหลักๆ ดังต่อไปนี้
ทำความสะอาดคลองรากฟัน
ทันตแพทย์จะขยายคลองรากฟันให้ใหญ่ขึ้นเพื่อระบายหนองออก และกำจัดเนื้อเยื้อที่อักเสบในโพรงประสาทฟันและเนื้อฟันที่มีการผุออก ทำความสะอาด ใส่ยาฆ่าเชื้อ แล้วปิดโพรงประสาทฟันด้วยวัสดุอุดชั่วคราว ประมาณ 3 ถึง 7 วัน ให้ยาฆ่าเชื้อออกฤทธิ์ ทำให้คนไข้อาจต้องกลับมาทำขั้นตอนนี้หลายครั้งสักหน่อย
อุดปิดโพรงประสาทฟันถาวร
เมื่อหนองแห้ง ไม่มีเชื้อโรค และไม่มีสิ่งสกปรกตกค้างแล้ว ทันตแพทย์จะอุดปิดโพรงประสาทฟัน ซึ่งต้องขึ้นกับว่าเป็นฟันซี่ไหน หากเป็นฟันซี่หน้าจะใช้เป็นวัสดุที่มีสีเหมือนฟัน แต่ถ้าเป็นฟันกรามจะใช้วัสดุที่ทนต่อแรงบดเคี้ยว
หลังจากขั้นตอนนี้ จะต้องทิ้งระยะสักเล็กน้อยเพื่อรอดูผลของการรักษา ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพฟันของแต่ละคน
3. การบูรณะฟัน
เนื่องจากในขั้นตอนของการทำความสะอาดคลองรากฟัน จำเป็นต้องมีการกรอเนื้อฟันออกไปบ้างเพื่อเข้าไปทำความสะอาดข้างใน ทำให้เนื้อฟันบางลงและเปราะลงมากกว่าฟันปกติ หากไม่มีการบูรณะฟันจะแตกง่าย จึงต้องมีการเสริมความแข็งแรงเข้าไป
3 ขั้นตอนหลักๆนี้ กินเวลานาน เนื่องจากเป็นขั้นตอนที่ซับซ้อน อย่างไรก็ตาม ผลที่คุณจะได้รับก็นับว่าคุ้มค่า เพราะคุณจะมีฟันเพื่อใช้บดเคี้ยวอาหารต่อไป ไม่จำเป็นต้องถอนทิ้ง และสามารถใช้งานฟันไปได้อีกนาน
อย่างไรก็ตาม ฟันที่ครอบทับลงไป อาจมีโอกาสเกิดฟันผุได้อีกหากดูแลไม่ดี เพราะบริเวณรอยต่อใต้ครอบ มันคือเนื้อฟันธรรมชาติที่สามารถผุได้ ดังนั้น หลังจากครอบฟันไปแล้ว ก็ควรเข้าไปให้ทันตแพทย์ตรวจเช็คบ้างเป็นระยะๆ อย่าวางใจจนไม่สนใจมันเลย เพราะมิเช่นนั้นคุณอาจจะต้องเสียดายเงินที่อุตส่าห์ไปรักษารากฟันมาตั้งแพง สุดท้ายก็ต้องมาแก้ไขใหม่อีกรอบ

ที่นี้มาดูในส่วนของการ “ถอนฟัน” กันบ้าง ว่ามีความแตกต่างอย่างไร
การถอนฟันเพื่อแก้ไขปัญหาความเจ็บปวด เป็นการตัดปัญหาที่เคยมี แต่อาจสร้างอีกหนึ่งปัญหามาแทนที่ เนื่องจากการถอนฟันจะถอนออกไปทั้งซี่แบบไม่หลงเหลืออะไรเลย ไม่มีการงอกใหม่ของฟัน หากฟันที่ถอนออกไปเป็นฟันแท้ วิธีนี้ใช้เวลาไม่นาน เจ็บไม่นาน และมีราคาที่ประหยัดมากกว่าการรักษารากฟันหลายเท่าตัวอย่างไรก็ตาม การถอนฟันก่อให้เกิดผลที่ตามมา ได้แก่
1. ตำแหน่งฟันที่ถอนไปถ้าปล่อยทิ้งไว้แบบไม่ทำอะไรเลย จะทำให้ฟันซี่ข้างเคียงหรือฟันทั้งแถบล้มได้ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริงๆ อาจจะต้องเสียทั้งเงิน ทั้งเวลารักษากันไปอีกยาวเลย
2. จำเป็นต้องใส่ฟันปลอมหรือสะพานฟัน เพื่อป้องกันปัญหาฟันล้ม ซึ่งวัสดุเหล่านี้ไม่สามารถอยู่คงทนถาวรตลอดไปได้ การใช้ไปเรื่อยๆอาจมีการแตกหักไปบ้างตามเวลา และแน่นอนว่าไม่แข็งแรงเท่าฟันจริงๆ ที่สำคัญมากไปกว่านั้นคือ ฟันปลอมมักสร้างความรำคาญให้แก่ผู้สวมใส่ เมื่อผู้ใส่รู้สึกไม่สบายก็อาจจะถอดมันออก และเกิดเป็นปัญหาฟันล้มตามมาอีก
หลังจากที่ทราบถึงข้อมูลข้อดีและข้อเสียของการักษารากฟันและการถอนฟันไปแล้ว เชื่อว่าหลายคนน่าจะพอนึกออกว่า ตัวเองนั้นควรที่จะแก้ปัญหาฟันอย่างไร ลองชั่งน้ำหนักดูว่าวิธีไหนที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด เพราะแต่ละคนอาจมีความจำเป็นต่อการใช้ฟันในลักษณะที่แตกต่างกัน รวมถึงอายุก็เป็นส่วนสำคัญต่อการตัดสินใจ
แต่ถ้าตอนนี้ยังตัดสินใจไม่ได้ แนะนำให้ลองปรึกษาทันตแพทย์ดูก่อน เล่าให้คุณหมอฟังว่าคุณมีการใช้ชีวิตประจำวันอย่างไร มีข้อจำกัดอย่างไร และมีงบประมาณมากน้อยแค่ไหน ทันตแพทย์จะได้ช่วยตัดสินใจและหาทางเลือกที่ดีที่สุดให้แก่คุณ…เพื่อยิ้มสวยๆของพวกเราทุกคนค่ะ
------------------------------------------------------------------------------------
ติดตามเราเป็นเพื่อนเฟสบุค http://www.facebook.com/HealthyThailandCenter
ติดตามกูรูด้านสุขภาพทางไลน์ http://line.me/ti/p/%40HealthyThailand
สนใจสินค้าสุขภาพและความงาม http://goo.gl/oogIL8
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น