*** สามารถติดตามเคล็ดลับสุขภาพดีดีที่ไลน์แอดไอดี @HealthyThailand หรือคลิก http://line.me/ti/p/%40healthythailand อย่าลืมคลิกมีกิจกรรมสนุกๆรับของรางวัลด้วยน้า ^

วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ปัญหา ‘น้ำกัดเท้า’ แก้ได้ด้วยสมุนไพร

ปัญหา ‘น้ำกัดเท้า’ แก้ได้ด้วยสมุนไพร


  หน้าฝนกำลังเวียนมาหาเราอีกครั้ง และแน่นอนว่าเมื่อมีฝนก็ต้องมีคำว่า “น้ำท่วม” ตามมาด้วยตลอด ไม่ว่าจะท่วมน้อยท่วมมาก การเดินลุยน้ำก็ยังถือเป็นภารกิจอันแสนหนักหน่วงที่ผู้ประสบภัยจำเป็นต้องเผชิญหน้าต่อไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การเอาเท้าของเราจุ่มลงไปในน้ำที่เป็นศุนย์รวมของเศษอาหาร ขยะ สิ่งปฏิกูล และน้ำจากท่อน้ำทิ้ง คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ และย่อมจะนำปัญหาการเกิดเชื้อราที่ง่ามนิ้ว หรือ “โรคฮ่องกงฟุต” มาสู่เราได้อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะทุกปัญหามีทางแก้ไข ดังต่อไปนี้
โรคน้ำกัดเท้า หรือฮ่องกงฟุต เป็นโรคที่มีอาการคัน ซึ่งเกิดจากเชื้อราที่เท้า เมื่ออากาศร้อนๆ และเท้าชื้นมากๆ ประกอบกับมีเหงื่อออกมากด้วย จึงเป็นบ่อเกิดของเชื้อราที่เรียกว่า Dermatophytes สำหรับสาเหตุหลักของโรคนี้ เกิดขึ้นเมื่อเรา “ย่ำน้ำ หรือแช่น้ำสกปรกแล้วละเลยการทำความสะอาดเท้าทันที” ซึ่งอาการดังกล่าวจะพบได้มากโดยเฉพาะบริเวณง่ามนิ้วเท้าที่เสี่ยงอย่างมากต่อการเกิดเชื้อราที่เท้า
ปัญหา ‘น้ำกัดเท้า’ แก้ได้ด้วยสมุนไพร
ภาพจาก : http://www.thaihealth.or.th/Content/2654 ปัญหา ‘น้ำกัดเท้า’ แก้ได้ด้วยสมุนไพร
ภาพจาก : http://www.thaihealth.or.th/Content/2654
    อาการของโรคฮ่องกงฟุต สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ระดับ ตามระดับความรุนแรง ได้แก่
    1. ยังไม่มีเชื้อรา เป็นเพียงอาการระคายเคืองจากความเปียกชื้นและสิ่งสกปรกในน้ำ ทำให้เท้าเปื่อย ลอก แดง คัน และแสบ โดยเฉพาะตามง่ามนิ้วเท้าและขอบเล็บ ซึ่งผิวหนังอักเสบในระดับนี้ ยังไม่มีเชื้อโรคใดๆ เข้าไปในบาดแผลได้ การรักษาระดับนี้ควรใช้ยาทาที่ผสมสเตียรอยด์ ไม่จำเป็นต้องใช้ยาฆ่าเชื้อรา เพราะยาบางชนิดจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองและแสบผิวหนังมากขึ้น และเมื่อสัมผัสกับสิ่งสกปรกที่อยู่ในน้ำ จะเกิดการติดเชื้อได้ง่าย
2. เริ่มเป็นแผลเล็กๆ ที่เกิดจากผิวหนังอักเสบ และเริ่มมีเชื้อโรควิ่งตรงเข้าสู่บาดแผล ส่งผลให้มีอาการบวมแดง เป็นหนองและปวด ระยะนี้ไม่ควรซื้อยามารักษาเองแล้ว ควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัย และรักษาตามอาการของผู้ป่วย หากปล่อยให้มีนาน จะทำให้ผิวที่ลอกปลิ้นเปื่อย จนติดเชื้อรา จนกลายเป็นโรคเชื้อราที่ซอกเท้า ส่วนอาการก็จะรุนแรงกว่าเดิม บวมแดง มีขุยขาวเปียก มีกลิ่นเหม็น และถ้าหากยังคงนิ่งนอนใจ ไม่รักษาอีกจนเรื้อรัง เชื้อราจะเข้าไปฝังตัวอยู่ในผิวหนังหรือเล็บเท้า ทำให้รักษาหายยาก ถึงแม้จะใช้ยาทาจนอาการดีขึ้น ดูเหมือนหายดีแล้ว แต่มักจะมีเชื้อหลงเหลืออยู่เมื่อเท้าอับชื้น ก็จะเกิดเชื้อราลุกลามขึ้นมาใหม่ ทำให้เกิดอาการเป็นๆ หายๆ เป็นประจำ ไม่หายขาด
หลังจากที่ทราบอาการของโรคนี้กันไปแล้ว ลองมาดูวิธีการรักษาพื้นบ้านกันบ้างดีกว่า ว่าเราสามารถใช้สมุนไพรหรือสิ่งของใกล้ตัวอะไรใดบ้างในการรักษาอาการดังกล่าว จะได้ไม่ต้องไปเสียเงินซื้อยาแก้เชื้อรามาให้เสียเวลา สมุนไพรธรรมชาติmสามารถรักษาโรคน้ำกัดเท้าได้ มีดังนี้
    1. มังคุด
มังคุดสามารถช่วยรักษาโรคนี้ได้ เนื่องจากมังคุดมีสรรพคุณในการรักษาบาดแผล สมานแผล ใช้ชะล้างบาดแผล แก้แผลเปื่อย แผลเป็นหนอง ทาแผลพุพอง วิธีการรักษาไม่ยากเพียงแค่นำเปลือกมังคุดมาฝนให้ละเอียด แล้วนำไปผสมกับนำปูนใส คนให้เข้ากัน ให้เข้มข้นพอประมาณ ใช้ทาบริเวณน้ำกัดเท้าวันละ 2-3 ครั้ง จนกว่าจะหาย ที่สำคัญควรจะทำความสะอาดเท้าและเช็ดให้แห้งก่อนทาด้วย
    2. กระเทียม
    กระเทียมสมุนไพรลดความดันและมีกลิ่นฉุน ก็สามารถแก้ปัญหานี้ได้เช่นกัน ทำง่ายๆโดยการนำเอากระเทียมมาตำไม่ต้องละเอียดมาก เสร็จแล้วนำมาห่อผ้าหรือทิชชูที่สะอาด บีบพอให้น้ำซึมออกมาจากผ้า แล้วแตะไปบริเวณที่น้ำกัดเท้า วันละ 3-4 ครั้ง แต่ถ้าหากเกิดอาการแสบมาก ให้ทาเพียงวันละ 1-2 ครั้งก็ได้

    3. ว่านหางจระเข้
    ว่านหางจระเข้ก็เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรที่นำมารักษาน้ำกัดเท้าได้ดี เพราะมีสรรพคุณฆ่าและยับยั้งการเจริญของเชื้อโรค การรักษานั้นก็ง่าย คือ นำเนื้อวุ้นว่านหางจระเข้ ที่ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยน้ำร้อนหรือน้ำด่างทับทิมแล้ว มาพอกปิดไว้ หากถ้าต้องการให้ได้ผลมากขึ้น ควรใช้เนื้อวุ้นว่านปิดหลังอาบน้ำ เพราะสารในเนื้อว่านจะซึมซาบเข้าไปในผิวหนังได้ง่ายขึ้น ถ้าอาการยังเป็นไม่มากก็จะหายคันได้ง่าย
    4. มะกรูด
    มะกรูดสามารถรักษาโรคนี้ได้เช่นกัน โดยนำมะกรูดมาผ่าซีกบีบน้ำให้ทั่วแผลน้ำกัดเท้า ทำวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น รับรองไม่เกิน 5 วัน อาการน้ำกัดเท้าก็จะหาย
    5. น้ำส้มสายชู
    ใครไม่มีสมุนไพรที่กล่าวมาข้างต้น ลองนำน้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะมาผสมกับน้ำอุ่นหรือน้ำสะอาดประมาณ 2 ลิตร จากนั้นแช่เท้าลงไปสัก 10-20 นาที จากนั้นล้างให้สะอาดก่อนเช็ดให้แห้ง นอกจากจะช่วยป้องกันน้ำกัดเท้าแล้ว การแช่เท้าในน้ำอุ่นยังช่วยผ่อนคลายได้อีกด้วย

    วิธีที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมดนี้ จำเป็นอย่างมากที่จะต้องล้างทำความสะอาดเท้า และเช็ดให้แห้งทุกครั้งก่อนรักษา
แต่ถ้าจะให้ดีที่สุด ควรป้องกันที่ต้นเหตุโดยการสวมบูตก่อนเดินลุยน้ำ หรือหมั่นล้างเท้าและเช็ดให้แห้งทุกครั้งที่ต้องออกไปลุยน้ำ แค่นี้โรคน้ำกัดเท้าก็คงทำอะไรคุณไม่ได้อีกต่อไปแล้วละค่ะ

------------------------------------------------------------------------------------
ติดตามเราเป็นเพื่อนเฟสบุค   http://www.facebook.com/HealthyThailandCenter    
ติดตามกูรูด้านสุขภาพทางไลน์   http://line.me/ti/p/%40HealthyThailand
สนใจสินค้าสุขภาพและความงาม  http://goo.gl/oogIL8

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ทักทาย แนะนำ ติชม แสดงความคิดเห็น