รักษา *แผลร้อนใน* อย่างไรไม่ให้เป็นซ้ำ
เชื่อว่าคงไม่มีใครไม่เคยเป็นแผลร้อนในภายในปากแน่นอน ซึ่งทุกครั้งที่เราเกิดแผลร้อนในนี้ขึ้นมา ก็ต้องรู้สึกทุกข์ทรมานเสียทุกครั้ง ไม่ว่าแผลที่เป็นจะเกิดขึ้นตาม ริมฝีปาก เพดานปาก กระพุ้งแก้ม เหงือก หรือลิ้น และมีขนาดใหญ่หรือเล็กแค่ไหน ก็ล้วนแต่สร้างความลำบากในการพูด การกิน ที่ทำให้รู้สึกเสียอารมณ์ไปได้ทั้งนั้น
ที่สำคัญคือแผลเหล่านี้ไม่ได้หายได้เองภายในชั่วข้ามคืน บางคนต้องใช้เวลาเป็นอาทิตย์หรือเป็นเดือนๆจึงจะรักษาให้แผลเหล่านั้นหายไปได้ บางคนซ้ำร้ายไปกว่านั้น เพราะในขณะที่แผลกำลังจะหาย ดันเผลอไปกัดโดนแผล ทำให้แผลร้อนในอักเสบยาวนานมากขึ้นไปอีก ใครที่ไม่อยากจะทนกับเรื่องพวกนี้อีกต่อไป ต้องมาเรียนรู้วิธีการป้องกันและรักษาแผลในปากไปพร้อมๆกันค่ะ รับรองว่ามีประโยชน์ต่อคุณอย่างแน่นอน
ก่อนที่จะคิดป้องกันต้องทราบเสียก่อนว่าคุณมีพฤติกรรมดังต่อไปนี้หรือไม่ เพราะพฤติกรรมที่ว่านี้คือตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดแผลร้อนในในปากได้ง่ายมากๆ ยกตัวอย่างเช่น ‘นอนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ’ ‘เคร่งเครียดกับงานอย่างหนัก’ ‘ชอบทานอาหารที่ทำให้เกิดความร้อนในร่างกาย (เบเกอรี่ ของทอดของมัน ของหวาน เครื่อดื่มแอลปอฮอล์) ‘ขาดธาตุเหล็ก โฟเลต หรือวิตามินบี 12’ ‘ชอบรับประทารอาหารรสจัดมากๆ’ ‘อยู่ในช่วงมีประจำเดือน’ และสุดท้ายที่ไม่น่าให้อภัย คือ ‘การกัดปากตัวเอง’
การป้องกันที่ง่ายแสนง่าย ก็คือ พยายามหลีกเลี่ยงพฤติกรรมตามที่กล่าวมาข้างต้นให้ได้ ยิ่งไม่ทำตามที่กล่าวมานี้เท่าไร โอกาสที่คุณจะไม่เป็นร้อนในก็มากขึ้นเท่านั้น หรืออาจจะอาศัยน้ำสมุนไพรเย็นๆมาช่วยดับความร้อนที่สะสมในร่างกายก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น น้ำใบบัวบก น้ำเก็กฮวย น้ำใบเตย
น้ำกระเจี๊ยบ น้ำมะนาว น้ำรางจืด น้ำมะตูม น้ำจับเลี้ยง เป็นต้น สมุนไพรเหล่านี้มีสรรคุณในการดับร้อนได้ทั้งนั้น แต่ถ้าคิดว่ายังไงก็คงทำไม่ได้ทั้งหมด ลองมาดูวิธีการรักษาแผลร้อนในกันดีกว่า ว่าจะต้องทำอย่างไรให้แผลร้อนในหายไปได้เร็วที่สุด เราจะได้ไม่ต้องทรมานกับมันนานมากนัก
น้ำกระเจี๊ยบ น้ำมะนาว น้ำรางจืด น้ำมะตูม น้ำจับเลี้ยง เป็นต้น สมุนไพรเหล่านี้มีสรรคุณในการดับร้อนได้ทั้งนั้น แต่ถ้าคิดว่ายังไงก็คงทำไม่ได้ทั้งหมด ลองมาดูวิธีการรักษาแผลร้อนในกันดีกว่า ว่าจะต้องทำอย่างไรให้แผลร้อนในหายไปได้เร็วที่สุด เราจะได้ไม่ต้องทรมานกับมันนานมากนัก
ว่ากันเรื่องแรกที่ ‘ยา‘ ที่ใช้รักษาแผลร้อนในกันก่อน เพราะน่าจะเป็นสิ่งแรกที่คนเป็นแผลร้อนในคิดถึง ยาที่ใช้รักษาแผลเหล่านี้มีอยู่ด้วยกัน 2 รูปแบบหลักๆ ทั้ง ยาป้าย และยาพ่น ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันออกไป และมีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกสรร ดังนี้
ยาป้าย หากเป็นยาป้ายมักจะเป็นยาที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้กันมากที่สุด เพราะง่าย หาซื้อได้สะดวก มีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ และได้ผลดี ตัวยาที่ช่วยรักษาอาการร้อนในในยาป้ายจะมีตัวยาที่สำคัญตัวเดียวกัน ได้แก่“ไทรแอมซิโนโลนอะเซทโทไนด์” ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งการอักเสบของแผลร้อนในได้ดี วิธีการใช้ยาป้ายที่ถูกต้องควรทาเพียงบางๆที่แผล และทาหลังอาหาร 3 มื้อ รวมถึงเวลาก่อนนอนด้วย
ยาพ่น บางคนอาจจะไม่สะดวกที่จะต้องใช้ยาป้าย ก็สามารถใช้ยาพ่นเพื่อรักษาอาการร้อนในได้เช่นกัน เพราะสามารถพ่นได้ง่ายตลอดเวลา แต่ก็มีข้อเสียตรงที่ไม่ค่อยติดทนนานเสียเท่าไร ยกตัวอย่างเช่น ยาพ่นคาร์มิลโลซาน-เอ็ม ที่สามารถประยุกต์จากยาพ่นแก้เจ็บคอมาเป็นยาพ่นเพื่อรักษาแผลร้อนในในปากให้หายได้
นอกจากยาป้ายและยาพ่นที่หาซื้อได้ตามร้ายขายยาแล้ว คนไหนที่อยากจะรักษาแผลในปากแบบธรรมชาติๆ ก็สามารถหาของใช้ในครัวอย่าง “เกลือ” เพื่อบรรเทาอาการของแผลร้อนในได้ด้วย การใช้เกลือเป็นวิธีที่ค่อนข้างได้ผลแต่ก็ต้องทนแสบกันสักนิด วิธีการง่ายๆแค่เอาเกลือประมาณครึ่งช้อนชา มาละลายน้ำ 1 แก้ว จากนั้นก็นำมาบ้วนปากทุกวันเช้าเย็น แค่ 3-4 วัน แผลร้อนในก็จะหายไปได้ หรือถ้าใครใจกล้าจะเอาเกลือมาป้ายที่แผลเลยก็ได้เช่นกัน แต่ไม่รับประกันความแสบนะคะ ถ้าคุณสามารถทนได้ วิธีนี้ก็ได้ผลสุดๆไปเลย ไม่กี่วันก็หายได้แล้ว
แต่สำหรับใครที่ยังตามหาสาเหตุของอาการร้อนในของตัวเองไม่เจอเสียที เพราะมั่นใจว่าทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารทอดๆ มันๆ หรือแอลกอฮอล์ รวมทั้งไม่ได้เครียดมากเกินไป แต่ก็ยังพบปัญหาแผลร้อนในในปากอยู่เสมอ เราขอแนะนำให้คุณลองเปลี่ยนยาสีฟันดู เพราะไม่แน่ว่าอาการร้อนในที่คุณกำลังเป็นอยู่ อาจจะเกิดจากสารบางอย่างในยาสีฟันก็ได้ เพราะหากเยื่อบุในปากของคุณแพ้สารบางชนิดในยาสีฟัน การแปรงฟันทุกวันก็จะยิ่งเป็นการส่งเสริมให้เกิดอาการร้อนในได้อย่างไม่รู้จบนั่นเอง
ส่วนสุดท้ายที่อยากแนะนำเพื่อป้องกันอาการร้อนในอย่างถาวร ก็คือ การดื่มน้ำอย่างเพียงพอ เพราะของเหลวที่ร่างกายรับเข้าไปนี้จะช่วยลดการก่อตัวของแผลในปากได้ ทำให้ไม่เป็นร้อนในเอาได้ง่ายๆ หรือถ้าคุณกำลังมีแผลอยู่ในปากพอดี การดื่มน้ำมากๆนี้จะช่วยลดอาการปวดของแผลได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
หลากหลายวิธีที่รวบรวมมานี้ น่าจะมีวิธีที่ถูกใจคุณบ้างแล้วใช่ไหมละค่ะลองนำไปใช้กันดู แล้วคุณจะลืมไปเลยว่าเคยเป็นแผลร้อนใน
------------------------------------------------------------------------------------
ติดตามเราเป็นเพื่อนเฟสบุค http://www.facebook.com/HealthyThailandCenter
ติดตามกูรูด้านสุขภาพทางไลน์ http://line.me/ti/p/%40HealthyThailand
สนใจสินค้าสุขภาพและความงาม http://goo.gl/oogIL8
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น