*** สามารถติดตามเคล็ดลับสุขภาพดีดีที่ไลน์แอดไอดี @HealthyThailand หรือคลิก http://line.me/ti/p/%40healthythailand อย่าลืมคลิกมีกิจกรรมสนุกๆรับของรางวัลด้วยน้า ^

วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ลดน้ำหนักอย่างไรให้ฟิตเฟริม?

ลดน้ำหนักอย่างไรให้ฟิตเฟริม?


 คุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังตั้งใจลดน้ำหนักอยู่หรือไม่ค่ะ? การลดน้ำหนักโดยส่วนใหญ่ก็ต้องมีการออกกำลังกายและควบคุมอาหารไปด้วยในเวลาเดียวกัน ซึ่งหากคนไหนต้องการจะเห็นผลเร็ว ก็คงต้องอดอาหารกันมากหน่อย ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาจึงจะเป็นที่พอใจอย่างที่คาดหวังเอาไว้
    แต่เมื่อน้ำหนักที่ไม่ต้องการหายไปแล้ว หลายคนกับเผชิญหน้ากับปัญหาใหม่ ซึ่งก็คือ “อาการเหี่ยว แก้มตอบ ดูไม่สดชื่นหรือไม่สดใสเหมือนแต่ก่อน หลายคนอาจคิดไปเองว่าคุณนั้นติดโรคร้าย หรือกำลังเป็นผู้ป่วยที่อาการปางตาย” ทั้งๆที่จริงแล้วเป็นผลที่ได้มาจากการลดน้ำหนักเท่านั้นเอง
    การตั้งใจลดน้ำหนักถือเป็นเรื่องดีๆในชีวิต แต่เรื่องดีอาจเปลี่ยนเป็นเรื่องร้ายได้ หากคุณตัดสินใจลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วจนร่างกายตั้งรับไม่ทัน เพราะการกระทำเช่นนี้จะทำให้คุณเกิดอาการผิวเหี่ยวแบบไม่ตั้งใจได้ แต่ไม่ต้องกังวลไปนะคะเพราะเรามีวิธีง่ายๆดังต่อไปนี้
    การลดน้ำหนักลงมาให้ทะลุเป้าไม่ใช่สิ่งเดียวที่คุณต้องทำให้ได้ แต่คุณจำเป็นต้องลดไขมันไปพร้อมๆกับการเพิ่มกล้ามเนื้อ เพื่อทดแทนบางสิ่งบางอย่างที่ขาดหายไป และทำให้คุณดูเต่งตึง ผอมเพรียว แต่ยังมีสุขภาพดีได้นั่นเอง
ลดน้ำหนักอย่างไรให้ฟิตเฟริม?


    สาเหตุของความเหี่ยวหลังการน้ำหนักลด มีปัจจัยหลักๆมาจาก 3 ปัจจัย ได้แก่
    1. คุณอดอาหารมากเกินไป การลดอาหารเป็นสิ่งจำเป็นในการลดน้ำหนัก แต่การลดอาหารจนมากเกินความพอดี จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ไม่ครบถ้วนหรือไม่เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการนำไปใช้ดูแลกล้ามเนื้อและผิวพรรณ ซึ่งเป็นผลให้คุณมีผิวที่เหี่ยวย่นลงไปกว่าเดิมได้นั่นเอง
    2. คุณสูญเสียของเหลวมากเกินไป การลดอาหารที่มากแต่ไม่ถูกทดแทนด้วยของเหลวที่มากเพียงพอซึ่งได้มาจากการดื่มน้ำ ก็มีผลทำให้คุณดูเหี่ยวลงได้เช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อคุณมาลดน้ำหนักเอาในตอนที่อายุมากๆแล้วไม่ดื่มน้ำให้เพียงพอแล้วด้วย โอกาสที่จะมีผิวเหี่ยวย่อมเกิดขึ้นได้มากกว่าในวัยอื่นๆ
    3. คุณลดไขมันลงฮวบฮาบมากเกินไป จากคนที่เคยมีไขมันหน้าท้อง ต้นขา หรือต้นแขนมากๆ แล้วเปลี่ยนไปเป็นอีกคนที่มีไขมันน้อยลงแบบทันตาจากการงดบริโภคไขมันทุกประเภทโดยสิ้นเชิง จะทำให้คุณเกิดอาการเหี่ยว เพราะปริมาณไขมันที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้วได้
    หนึ่งในตัวอย่างของการลดน้ำหนักของชายหนุ่มผู้หนึ่งที่ชื่อว่า David Smith ชายหนุ่มรูปร่างอ้วนผู้เคยมีน้ำหนักมากถึง 285 กก. เขาเริ่มรู้สึกว่าควมอ้วนเป็นอันตรายต่อตัวเขา จึงตัดสินใจลดน้ำหนักลงแบบรวดเร็ว ภายในเวลาไม่นานเขาสามารถลดน้ำหนักจาก 285 กก. เหลือเพียง 180 กก. ซึ่งความแตกต่างของน้ำหนักปริมาณ 105 กก.นี้ เป็นผลทำให้ผิวหนังของเขาเกิดอาการเหี่ยวและยืดยานออกมา ซึ่งวิธีการแก้ไขที่ดีที่สุดสำหรับกรณีนี้ จึงกลายเป็นการผ่าเอาเนื้อเหี่ยวๆเหล่านี้ออกไป และเย็บกลับให้กระชับมากขึ้น ดังรูป
ลดน้ำหนักอย่างไรให้ฟิตเฟริม?
ภาพจาก : http://www.cosmenet.in.th/cosme-intrend/21289/%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7- ลดน้ำหนักอย่างไรให้ฟิตเฟริม?
    สำหรับคนทั่วๆไป อาจจะไม่จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดเหมือน David Smith เพราะเพียงแค่คุณทำตามวิธีเหล่านี้ อาการเหี่ยวหลังการลดน้ำหนักก็ทำอะไรคุณไม่ได้หรอกค่ะ
    1. รับประทานอาหารให้ครบทุกหมู่ แม้จะอยู่ในช่วงของการไดเอท แต่การอดอาหารหมู่ใดหมู่หนึ่งไปแบบสิ้นเชิงก็ไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้องมากนัก อย่างเช่นถ้าคุณพยายามลดแป้งและลดน้ำตาลลงโดยไม่ทานเลย คุณก็จะไร้พลังงานในการดำเนินชีวิต เพราะฉะนั้น อย่าอดแต่ใช้วิธีลดลงทีละน้อยๆจะดีกว่า และเลือกทานน้ำตาลที่ได้จากผักหรือผลไม้อย่างเหมาะสม เพราะไม่ใช่เพียงความหวานเท่านั้นที่ร่างกายคุณต้องการ แต่ผักผลไม้เหล่านี้ยังมอบวิตามินดีๆให้คุณด้วยเ
    2. ดื่มน้ำให้มากเพียงพอ น้ำยังคงเป็นสิ่งที่ร่างกายขาดไม่ได้ แม้ว่าจะอดหรืออิ่ม น้ำจะต้องไม่ขาดเด็ดขาด
    3. รับประทานไขมันโอเมก้า 3 ลดความอ้วนแต่ก็ยังต้องทานไขมันอยู่ดี อย่างไรก็ตาม ไขมันที่เลือกทานจะต้องเป็นไขมันที่มีคุณภาพดี ที่แนะนำคือไขมันโอเมก้า 3 ที่หาได้จากปลาทะเลและถั่วชนิดต่างๆ
    4. ใจเย็นๆไม่ต้องเร่ง การลดน้ำหนักอย่างค่อยเป็นค่อยไป จะช่วยให้คุณมีหุ่นที่ดีได้อย่างยืนยาว แม้จะช้าหน่อยแต่ได้หุ่นที่สวยดูดีได้มากกว่า
    5. เพิ่มกล้ามเนื้อแทนไขมัน สิ่งสำคัญของการลดน้ำหนัก คือการเพิ่มกล้ามเนื้อควบคู่ไปด้วย เพราะการตั้งหน้าตั้งตาลดน้ำหนักเพียงอย่างเดียวแบบไม่สนใจที่จะเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ จะทำให้คุณดูเหี่ยวลงแบบทันตาเห็น ดังนั้น การเร่งสร้างมวลกล้ามเนื้อควบคู่ไปด้วยน่าจะเป็นวิธีการที่ดีกว่า และทำให้คุณดูแข็งแรงแบบคนสุขภาพดีได้จริงๆ ไม่ใช่ผู้ป่วยที่ดูเหมือนไร้เรี่ยวแรง
    5 ข้อนี้ เป็นปัจจัยสำคัญที่คุณควรพิจารณาควบคู่ไปพร้อมๆกับการลดน้ำหนัก เพราะตราบใดที่จุดประสงค์ของการลดน้ำหนักทำไปเพื่อให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้น คุณก็ไม่ควรที่จะลืมปฏิบัติตามข้อแนะนำเหล่านี้ เพราะถึงแม้ว่าวิธีนี้จะช้า แต่รับรองว่าหุ่นที่คุณได้จะอยู่กับคุณไปแบบยาวนาน แถมไม่มีโรคอื่นมาคอยทำให้คุณกังวลใจด้วย
    อย่ามัวแต่ชั่งน้ำหนักเพียงอย่างเดียว เพราะน้ำหนักไม่ใช่เครื่องมือการการันตีความมีสุขภาพดีเพียงอย่างเดียว แต่ควรพิจารณาส่วนสูง ค่า BMI รวมถึงรูปลักษณ์ภายนอกเอาเสียบ้าง
    เริ่มต้นลดน้ำหนักอย่างถูกวิธีตั้งแต่วันนี้เพื่อหุ่นที่ดีตลอดไป

------------------------------------------------------------------------------------
ติดตามเราเป็นเพื่อนเฟสบุค   http://www.facebook.com/HealthyThailandCenter    
ติดตามกูรูด้านสุขภาพทางไลน์   http://line.me/ti/p/%40HealthyThailand
สนใจสินค้าสุขภาพและความงาม  http://goo.gl/oogIL8

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ทักทาย แนะนำ ติชม แสดงความคิดเห็น