[ต้อลม] ภัยร้ายที่มากับลมเย็น
ปัญหาเกี่ยวกับตา เป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่ากลัว และเป็นเรื่องที่ต้องรีบแก้ไขโดยด่วย เพราะหากปล่อยไว้นานไป จากปัญหาเล็กๆก็จะขยายเป็นปัญหาใหญ่ จนในที่สุดอาจจะต้องสูญเสียการมองเห็นไปได้
หนึ่งในปัญหาโรคตาที่คนส่วนใหญ่เป็นกันอยู่แต่ไม่ค่อยจะรู้ตัว ก็คือ “โรคต้อลม” เป็นโรคที่เกิดขึ้นเมื่อดวงตาต้องสัมผัสกับลมแรงๆเป็นเวลานานๆ สะสมไปเรื่อยๆจนกลายเป็นปัญหาในที่สุด มาเรียนรู้ถึงสาเหตุหรือวิธีการป้องกัน รวมถึงวิธีการรักษาโรคนี้กันดีกว่าค่ะ เพื่อดวงตาที่สดใสไปนานๆ
โรคต้อลม เป็นโรคต้อประเภทหนึ่งที่เกิดขึ้นกับดวงตา เกิดขึ้นเนื่องจากการเสื่อมสภาพของเยื่อบุตาขาว โดยจะมีลักษณะเป็นก้อนเนื้อขนาดเล็ก นูนๆ สีขาวหรือสีเหลืองเกิดขึ้นอยู่บริเวณเยื่อบุตาขาว และมักพบก้อนเนื้อนี้บ่อยๆบริเวณหัวตามากกว่าบริเวณหางตา ก้อนเนื้อที่ว่านี้ไม่ใช่เนื้องอกหรือไม่ใช่เนื้อร้ายที่จะก่อให้เกิดมะเร็ง อย่างไรก็ตาม หากไม่ได้รับการป้องกันหรือรักษาอย่างถูกวิธี จากก้อนเนื้อก็อาจจะลุกลามจนกลายเป็นแผ่นเนื้อขนาดใหญ่แผ่ขยายเข้ามาในบริเวณกระจกตาดำ หรือที่เรียกกันว่า “ต้อลม” ได้ในที่สุด
การมีต้อเกิดขึ้นที่ดวงตา จะทำให้เกิดอาการระคายเคืองดวงตาได้ง่ายกว่าปกติ อย่างไรก็ตาม โรคนี้ไม่ได้ทำให้เกิดอาการตามัวหรือตาบอดแต่อย่างใด ไม่เหมือนกับต้อชนิดอื่นๆ
คราวนี้มาดูสาเหตุของการเกิดโรคกันบ้าง
แม้จะชื่อว่าต้อลม แต่ต้อประเภทนี้ไม่ได้มีสาเหตุมาจากลมเพียงอย่างเดียว แต่สาเหตุของโรคโดยส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นจาก การได้รับรังสีอัลตราไวโอเลต (รังสี UV) การสัมผัสกับลม ฝุ่น ควัน
และความร้อน
รวมๆกันหลายๆปัจจัย สิ่งเหล่านี้จะทำให้ดวงตาเกิดความระคายเคืองของเยื่อบุตาขาว และพัฒนาเป็นโรคต้อลมในที่สุด
และความร้อน
รวมๆกันหลายๆปัจจัย สิ่งเหล่านี้จะทำให้ดวงตาเกิดความระคายเคืองของเยื่อบุตาขาว และพัฒนาเป็นโรคต้อลมในที่สุด
และเนื่องจากโรคต้อลมเป็นโรคที่ต้องเกิดจากการสะสมของการระคายเคืองดวงตา จึงไม่ใช่โรคที่พบแบบเฉียบพลัน โรคต้อลมมักจะเกิดขึ้นในคนที่อายุมากประมาณ 30 ปีขึ้นไป เพราะโรคนี้จะต้องมีการสะสมอาการไปก่อนสักระยะหนึ่ง
คนส่วนใหญ่ที่มักเกิดโรคนี้จะต้องเป็นคนที่ดวงตาสัมผัสกับลมหรือฝุ่นอยู่บ่อยๆเกือบตลอดเวลา ดังนั้น จึงน่าแปลกใจที่ชาวนาชาวไร่ หรือคนขี่รักการขี่มอเตอร์ไซค์ จะพบโรคนี้เป็นส่วนใหญ่
สายลมที่ปะทะใบหน้าอาจช่วยลดความร้อนของอากาศได้ แต่การประทะกับลมตลอดเวลาไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องเลย นอกจากนี้ คนทั่วไปก็มีสิทธิเป็นโรคนี้ได้เช่นกัน โดยเฉพาะคนที่ชอบเอาหน้าไปอังพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศ ซึ่งความแรงของลมจะเป็นอันตรายต่อดวงตาที่บอบบางได้ หากไม่ต้องการให้เป็นเช่นนี้คุณจะต้องรู้จักวิธีการป้องกันและแก้ไขที่ถูกต้อง ดังต่อไปนี้
1. คนที่ชอบขี่มอเตอร์ไซค์ ควรเลือกใส่หมวกกันนอคแบบที่มีกระจกบังข้างหน้า หรือสวมแว่นตาเพื่อป้องกันลม
ทั้งนี้เพราะการขับรถมอเตอร์ไซค์จะต้องพบเจอกับอะไรมากมายระหว่างการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็น ฝุ่น ควัน แสงแดด หรือรังสี UV ที่อาจจะส่งผลให้เรารู้สึกแสบตา ระคายเคือง และเกิดอาการอื่นๆได้อีกมากมาย ซึ่งเราจะไม่สามารถป้องกันตัวเองได้หากไม่สวมใส่อุปกรณ์เหล่านี้
2. สำหรับคนทั่วไปเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับลมแรงๆหรือแสงแดดจ้า ควรสวมใส่แว่นกันแดดเป็นประจำเพื่อช่วยป้องกันแสงหรือลมที่ปะทะเข้าใบหน้า
3. ดื่มน้ำให้มากๆ
การดื่มน้ำที่มากเพียงพอจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ดวงตาได้เป็นอย่างดี ทำให้ดวงตาไม่แห้ง และช่วยลดการระคายเคืองได้
4. ใช้ยาหยอดตา
สำหรับผู้ที่เป็นต้อลมหากมีอาการเคืองตา น้ำตาไหล ตาแดงอักเสบ จักษุแพทย์จะพิจารณาให้ใช้ยาหยอดตา เพื่อบรรเทาอาการดังกล่าวได่ อย่างไรก็ตาม ยาหยอดตาไม่สามารถทำให้ต้อลมที่มีหายไปได้ แค่เพียงลดการอักเสบเท่านั้น
5. การผ่าตัด
โดยทั่วไปแล้ว โรคต้อลมไม่จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดหากมีขนาดเล็กและไม่มีอาการที่เป็นภาวะอันตราย เพราะต้อลมไม่ได้ทำให้เกิดการสูญเสียการมองเห็น แต่อาจพิจารณาการผ่าตัดเฉพาะในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการระคายเคืองหรืออักเสบบ่อยๆ และลองได้รับการรักษาด้วยยาหยอดตาไปแล้ว แต่อาการไม่ทุเลาลง
จากข้อมูลข้างต้น จะเห็นได้ว่าโรคต้อลมไม่ใช่โรคที่เป็นอันตรายร้ายแรงเท่ากับโรคต้อกระจก ต้อเนื้อ ต้อหิน หรือต้ออื่นๆ เพราะไม่ได้เป็นโรคที่ทำให้คุณตาบอด เพียงแต่จะทำให้เกิดอาการระคายเคืองของดวงตา อาการที่เกิดขึ้นนี้อาจจะสร้างความรำคาญใจให้คุณได้ตลอดเวลา ซึ่งก็คงไม่ใช่เรื่องดีที่จะปล่อยมันทิ้งไว้ให้เป็นเช่นนี้
ใครคนไหนที่เริ่มรู้ตัวแล้วว่าตัวเองมีความเสี่ยงที่จะเป็นต้อลม เนื่องจากใช้ชีวิตที่เสี่ยงกับการตากลมอยู่บ่อยครั้ง ก็พยายามหาอุปกรณ์ป้องกันดวงตา เช่น แว่นตา หมวกกันนอคที่มีฝาปิดข้างหน้ามาสวมใส่ไว้ทุกครั้ง ที่สำคัญลองเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจสอบดวงตาของคุณดูบ้าง ว่าการมองเห็นยังชัดเจนเหมือนแต่ก่อนหรือไม่ เพราะการตรวจร่างกายอาจจะทำให้คุณตรวจพบโรคที่คุณคาดไม่ถึงได้ และถ้าเกิดปัญหาขึ้นมาจริงจะได้แก้ไขได้อย่างถูกต้อง และทันเวลา เพียงเท่านี้คุณก็จะปลอดภัยและมีดวงตาที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนตลอดไปแล้ว
------------------------------------------------------------------------------------
ติดตามเราเป็นเพื่อนเฟสบุค http://www.facebook.com/HealthyThailandCenter
ติดตามกูรูด้านสุขภาพทางไลน์ http://line.me/ti/p/%40HealthyThailand
สนใจสินค้าสุขภาพและความงาม http://goo.gl/oogIL8
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น