เหนือกว่า LASIK ต้อง RELEX
เพราะสายตาเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนจำเป็นต้องใช้มันตลอดเวลา ทุกๆการมองเห็นมีผลกระทบอย่างมากต่อการใช้ชีวิต การทำงาน หรือแม้แต่การสร้างความสุขให้แก่ตนเอง ทำให้คนเราทุกคนนั้นรู้สึกหวงแหนดวงตาของเรามากกว่าสิ่งใด เพราะหากวันหนึ่งที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ขึ้นมา ก็คงทำให้ทุกอย่างในชีวิตไม่สดใสเหมือนดังเดิม
แต่สายตาของเราก็คงไม่สามารถมองได้ชัดเจนอยู่ตลอดเวลา มีบางที่อาจจะเกิดอาการสายตาสั้น หรือมีบ้างที่อาจเกิดสายตายาว ซึ่งทุกปัญหาทางสายตาสามารถแก้ไขได้ด้วยการสวมแว่นตา การใส่คอนแทคเลนส์ หรือแม้แต่กระทั่งการทำเลสิก (LASIK) ซึ่งทุกๆวิธีการแก้ไขปัญหาทางสายตานี้ ก็มีจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกันออกไป ทำให้นวัตกรรมการแก้ไขปัญหาทางสายตาเหล่านี้ ถูกพัฒนาขึ้นตลอดเวลา เพื่อลบจุดด้อยออกไปให้เหลือน้อยที่สุด
วิธีการแก้ไขปัญหาทางสายตาที่เรากำลังจะพูดถึงนี้เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับการพัฒนามาจากการทำเลสิก (LASIK) แต่สามารถลบจุดด้อยออกไปได้มากกว่า จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น มาดูให้เห็นด้วยตาของคุณเลยดีกว่า
ReLEx (Refractive Lenticule Extraction) เป็นเทคโนโลยีการรักษาภาวะสายตาผิดปกติรูปแบบใหม่ ที่ช่วยรักษาภาวะสายตาสั้นและเอียงได้เป็นอย่างดี วิธีที่ว่านี้ช่วยให้การมองเห็นของคุณกลับมาคมชัดได้อีกครั้ง โดยใช้เทคนิคที่ใกล้เคียงกับการทำเลสิก ซึ่งก็คือ การปรับเปลี่ยนความโค้งของกระจกตาด้วยเลเซอร์ แต่ทำให้เกิดบาดแผลที่มีขนาดเล็กมากเพียง 2 – 5 มิลลิเมตร และมีเทคนิคพิเศษที่จะช่วยให้กระจกตาถูกรบกวนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากไม่มีการใช้เครื่องมือเพื่อกดทับกระจกตาในระหว่างการผ่าตัด ทำให้สามารถลดความรู้สึกเจ็บระหว่างการผ่าตัดลงได้เป็นอย่างดี กระจกตาหลังผ่านการรักษาด้วยวิธีนี้ จะมีความแข็งแรงมากกว่า และมีบาดแผลที่มีขนาดเล็กลง
การรักษาภาวะสายตาผิดปกติด้วยวิธี ReLEx ถือเป็นวิธีที่มีความแม่นยำสูงมาก และสามารถกำหนดตำแหน่งความโค้งของกระจกตาได้ตามต้องการ โดยใช้เทคโนโลยีชั้นสูงที่เรียกว่า Femtosecond Laser เครื่องมือนี้จะช่วยแยกชั้นกระจกตา ก่อนที่จะปรับความโค้งของกระจกตาให้เหมาะสมตามความสั้นของสายตาของผู้เข้ารับการรักษา ก่อนจะปิดกระจกตากลับลงมาตามเดิม
อีกหนึ่งข้อดีที่เห็นได้ชัด ก็คือ ความโค้งของกระจกตาหลังการรักษาจะยังคงมีรูปร่างที่ดีดังเดิม ทำให้ช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหาการมองเห็นในที่ที่มีแสงน้อยได้ ซึ่งถือเป็นจุดเนที่มีเหนือการทำเลสิก โดย ReLEx นี้ สามารถแก้ไขปัญหาสายตาสั้นและเอียง ได้ตั้งแต่ 1.00 ถึง 13.00 Diopter และยังลดโอกาสการเกิดภาวะถดถอยของสายตา หรือการที่สายตากลับมาสั้นหรือเอียงเช่นเดิมหลังจากผ่านการผ่าตัดไปในระยะยาวได้ดีกว่าการทำเลสิกด้วย ส่วนในเรื่องของผลข้างเคียงต่างๆ หลังการรักษา การทำ ReLEx จะช่วยลดอาการตาแห้งได้เป็นอย่างดี เนื่องจากการรักษาสายตาด้วยวิธีนี้มีการรบกวนเส้นประสาทของกระจกตาน้อยมาก
การรักษาปัญหาทางสายตาวิธี ReLEx สามารถช่วยให้คุณกลับมามองเห็นได้อย่างคมชัดอีกครั้ง โดยสามารถใช้เทคโนโลยีนี้รักษาผู้ที่มีภาวะสายตาสั้นหรือเอียง ได้ตั้งแต่ตอนที่มีอายุ 18 ปี จนถึงอายุสูงสุดได้ไม่เกิน 65 ปี อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เข้ารับการรักษาจะต้องไม่มีข้อจำกัดดังต่อไปนี้
– ไม่มีโรคที่เกี่ยวข้องกับกระจกตา เช่น โรคกระจกตาย้วย โรคตาแห้งอย่างรุนแรง และโรคตาอย่างอื่น เช่น จอประสาทตาเสื่อม เป็นต้น
– ไม่มีโรคทางร่างกายอื่นๆ ที่อาจมีผลต่อการหายของแผล เช่น โรค SLE, โรค Sjogren’s syndrome, โรคสะเก็ดเงิน, โรคภูมิคุ้มกันเกินอื่นๆ หรือเบาหวาน ที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ดี สำหรับกรณีที่ผู้เข้ารับการรักษาคนใดที่มีโรคประจำตัวอยู่ ควรแจ้งรายละเอียดของโรคนั้นๆให้แพทย์ทราบก่อนล่วงหน้า
– ผู้เข้ารับการรักษาไม่ควรทานยารักษาสิวในกลุ่ม Isotretinoin เช่น Roaccutane, Acnotin, Isotret เป็นต้น โดยหากทานอยู่เป็นประจำ ควรจะต้องหยุดยาดังกล่าวก่อนที่จะเข้ามาตรวจวิเคราะห์สภาพตาและก่อนการได้รับการผ่าตัด อย่างน้อย 1 เดือน ทั้งนี้มีเหตุผลมาจาก ยาเหล่านี้มีผลให้เยื่อบุต่างๆภายในร่างกายแห้งช้ากว่าปกติ ซึ่งมีผลรวมถึงผิวกระจกตา ที่อาจมีผลระหว่างการรักษาด้วยการผ่าตัดนี้ด้วย
– สตรีมีครรภ์ หรือมีแผนการตั้งครรภ์ ไม่สามารถเข้ารับการรักษาด้วยวิธีนี้ได้ หากต้องการรักษาจะต้องเป็นช่วงหลังการผ่าตัดไปแล้วอย่างน้อย 3 เดือน ส่วนสตรีที่มีบุตรแล้ว จะต้องรอให้มีประจำเดือนอย่างน้อย 2 ครั้งติดต่อกันเสียก่อน จึงจะสามารถเข้ามารับการรักษาได้
ทุกข้อห้ามมีไว้เพื่อรักษาความปลอดภัยของผู้เข้ารับการรักษาให้ได้มากที่สุด หากคุณสามารถปฏิบัติตามได้อย่างเคร่งครัด ก็จะช่วยให้การรักษามีผลดีได้มากขึ้น จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยี ReLEx นับเป็นการพัฒนาอีกขั้นหนึ่งของการรักษาภาวะอาการสายตาสั้น หากใครไม่อยากต้องสวมแว่นสายตาหรือใส่คอนแทคเลนส์ไปตลอดชีวิต นี่ก็คงเป็นทางออกที่ช่วยให้คุณสามารถมองเห็นโลกได้อย่างชัดเจนมากขึ้นได้ แต่ก็ต้องขอบอกก่อนว่า จำเป็นต้องสำรองเงินไว้ในปริมาณที่ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว เพราะเทคโนโลยีนี้ต้องใช้ความละเอียดและเครื่องมือที่ทันสมัยมาก แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็เกินความคุ้มค่าอย่างแน่นอน
------------------------------------------------------------------------------------
ติดตามเราเป็นเพื่อนเฟสบุค http://www.facebook.com/HealthyThailandCenter
ติดตามกูรูด้านสุขภาพทางไลน์ http://line.me/ti/p/%40HealthyThailand
สนใจสินค้าสุขภาพและความงาม http://goo.gl/oogIL8
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น