*** สามารถติดตามเคล็ดลับสุขภาพดีดีที่ไลน์แอดไอดี @HealthyThailand หรือคลิก http://line.me/ti/p/%40healthythailand อย่าลืมคลิกมีกิจกรรมสนุกๆรับของรางวัลด้วยน้า ^

วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

แก้ปัญหาส้นเท้าแตกให้เนียนนุ่ม..เรื่องง่ายๆที่ใครก็ทำได้

แก้ปัญหาส้นเท้าแตกให้เนียนนุ่ม..เรื่องง่ายๆที่ใครก็ทำได้


 หลายปัญหาเรื่องความงามเป็นสิ่งที่สาวๆมักจะเกิดความกังวลอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า หน้า ผม หรือไล่ต่ำลงไปถึงส้นเท้า ก็เป็นสิ่งที่คุณผู้หญิงไม่เคยปล่อยมันให้ผ่านพ้นไป เพราะการที่เราจะสวยได้สมบูรณ์แบบนั้น ก็ควรที่จะต้องดูแลให้ถ้วนทั่วตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า การดูแลความสวยงามเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป หากคุณสาวๆได้เรียนรู้เทคนิคสำคัญที่จะช่วยเปลี่ยนเรื่องยากให้กลายเป็นเรื่องที่แสนง่ายในชั่วพริบตาเดียว
    สาวๆคงจะรู้สึกปวดหัวกับการรักษาปัญหาส้นเท้าแตกที่เป็นง่าย รักษาไม่หายขาด และสร้างทั้งความรำคาญและลดความมั่นใจเวลาที่ต้องนั่งเปลือยเท้าต่อหน้าสาธารณชน แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปหากคุณเพิ่มความใส่ใจในการดูแลฝ่าเท้า ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
แก้ปัญหาส้นเท้าแตกให้เนียนนุ่ม..เรื่องง่ายๆที่ใครก็ทำได้
ภาพจาก : http://www.kondoodee.com แก้ปัญหาส้นเท้าแตกให้เนียนนุ่ม..เรื่องง่ายๆที่ใครก็ทำได้

วิธีป้องกันและแก้ไขส้นเท้าแตก
1. เปลือกกล้วยหอม…ยาชั้นดี

    กล้วยหอมเป็นผลไม้รสอร่อย ทานง่าย หาทานได้สะดวก และนอกจากเนื้อของกล้วยหอมจะช่วยให้เราอิ่มท้องและอร่อยได้เต็มที่แล้ว เปลือกกล้วยหอมที่เหลือก็ยังมีประโยชน์มากมายที่คุณอาจยังไม่รู้อีกด้วย ดังนั้น เมื่อทานกล้วยหอมหมดแล้วอย่าเพิ่งโยนเปลือกทิ้งนะคะ นำเอาเปลือกกล้วยหอมมาถูๆตรงๆส้นเท้าที่มีรอยแตก ถูไปถูมา จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ10-15 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด เช็ดให้แห้งพร้อมกับทาครีมบำรุงเท้า  วิธีนี้ควรจะทำอย่างน้อยอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง เพราะกรดผลไม้และสารอาหารในเปลือกกล้วยจะช่วยลอกผิวและสมานส้นเท้าที่แตกได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ เรียกได้ว่า เมื่อกินกล้วยเสร็จแล้วเปลือกก็สามารถนำมาทำประโยชน์แบบนี้ได้อีกด้วย
2. แช่เท้าในน้ำอุ่น
    วิธีแสนเบสิกที่ทุกคนน่าจะรู้กันดี แต่ไม่มีเวลาทำมันเท่าไร เราจึงอยากจะมาช่วยเตือนความจำคุณสักเล็กน้อย เพราะเพียงแค่คุณแช่เท้าในน้ำอุ่นประมาณ 15 นาที จากนั้นใช้หินสำหรับขัดเท้าถูเบาๆต้องรอยแตก เซลล์ที่ตายก็จะค่อยๆหลุดออกไปเอง จากนั้นผิวหนังก็จะผลิตเซลล์ใหม่ขึ้นมาแทนที่เรื่อยๆจนหายขาด
จากนั้นอย่าลืมทาครีมบำรุง และเช็ดเท้าให้แห้งนะคะ   แค่นี้ก็จะทำให้เท้าของสาวๆดีขึ้นได้แล้ว ทำเช่นนี้เพียงแค่อาทิตย์ละ 2-3ครั้ง ก็สามารถเปลี่ยนเท้าแตกๆให้กลายเป็นเท้าที่เนียนนุ่มชุ่มชื่นได้แล้ว
3. แช่เท้าด้วยวิธีพิเศษ
    เพิ่มเทคนิคขึ้นมาอีกเล็กน้อยสำหรับการแช่เท้าในน้ำอุ่นที่คุณเคยทำกันตามแบบปกติ แต่วิธีนี้เพียงแค่คุณนำน้ำอุ่นจนเกือบร้อนมาผสมกับน้ำยาบ้วนปากและน้ำส้มสายชู จากนั้นจึงแช่เท้าลงไปตามเดิม การที่เราเติมน้ำยาบ้วนปากและน้ำส้มสายชูลงไปนี้ ไม่ได้มีดีแค่เพียงการแก้ส้นเท้าแตกอย่างเดียวเท่านั้น แต่การแช่เท้าด้วยวิธีการเช่นนี้ยังช่วยรักษาอาการเท้าเหม็นได้อีกด้วย
เรียกได้ว่าได้รับประโยชน์สองเด้งในเวลาเดียวกันเลยทีเดียว

4. ไม่เดินเท้าเปล่าหรือปล่อยให้เท้าเย็น
    แค่เพียงการดูแลเท้าด้วยการแช่เท้าคงยังไม่เพียงพอ แต่คุณจำเป็นต้องดูแลฝ่าเท้าของคุณตลอดเวลาด้วย เมื่ออยู่ในบ้านควรใส่รองเท้าสำหรับเดินในบ้าน เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้เท้าเย็นจนส้นเท้าขาดความชุ่มชื้น นอกจากนี้ รองเท้ายังช่วยลดไม่ให้ส้นเท้ากระแทกกับพื้นแรงจนเกินไปด้วย ส่วนในเวลาก่อนนอน ก็ควรสวมถุงเท้าเอาไว้ เพื่อคงความชุ่มชื้นของส้นเท้าให้อยู่ตลอดคืน โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาวด้วยแล้ว การรักษาเท้าให้อุ่นตลอดเวลาย่อมเป็นหนทางที่ดีมากกว่า หากสามารถทำแบบนี้ได้เป็นประจำ ก็จะทำให้ส้นเท้าหายจากอาการแตกและกลับมามีผิวที่เนียนนุ่มขึ้นได้ค่ะ
5. เลือกรองเท้าให้เหมาะสม
    การเลือกรองเท้าที่มีขนาดพอดีกับเท้า ใส่แล้วไม่คับหรือหลวมจนเกินไป และมีพื้นที่ไม่แข็งหรือนิ่มจนเกินไป ก็สามารถช่วยถนอมส้นเท้าของคุณได้เป็นอย่างดีเช่นกัน อีกทั้ง การใส่รองเท้าที่เหมาะสมแบบนี้ก็สามารถช่วยให้อาการส้นเท้าแตกเกิดกับคุณได้ยากมากขึ้นด้วย หากสามารถป้องกันตัวเองได้ดีตั้งแต่ต้น เวลาจะแก้ไขปัญหาก็จะสามารถทำได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม

6. ลดความอ้วน
    เรื่องนี้อาจจะยากสักหน่อย และจำเป็นต้องอาศัยตัวช่วยตัวอื่นๆอีกมากมาย แต่เชื่อเถอะว่าคนที่มีน้ำหนักมากกว่าย่อมมีแรงกดทับลงไปบนส้นเท้ามากกว่า ดังนั้น หากคุณสามารถลดน้ำหนักได้ จึงกลายเป็นอีกหนึ่งหนทางที่จะช่วยรักษาปัญหาส้นเท้าแตกได้ในทางอ้อม นอกจากนี้ ยังช่วยให้คุณกลับมามีรูปร่างดี และลดอัตราการเกิดโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ อันเกิดจากสาเหตุของโรคอ้วนได้อีกด้วย แต่การที่คุณผอมลงเพียงอย่างเดียวคงไม่ใช่ทางแก้ปัญหาที่ยั่งยืน คุณจำเป็นต้องปฏิบัติตามวิธีที่กล่าวมาทั้งหมดก่อนหน้านี้ด้วย จึงจะทำให้ส้นเท้าของคุณเนียนสวยไร้รอยแตกได้ตลอดไป

แต่สำหรับใครที่มีอาการหนักมากๆจนส้นเท้าแตกเป็นรอยเลือดและมีอาการเจ็บแสบ คงต้องรีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อทำการรักษาปัญหาที่เกิดขึ้นให้ตรงจุด และย่อมจะช่วยให้อาการส้นเท้าแตกที่คุณเป็นหายไปได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม หากคุณเรียนรู้วิธีการป้องกันมาอย่างดีตั้งแต่แรก ปัญหาเช่นนี้ก็คงไม่มีวันเกิดขึ้นกับคุณแน่นอน

------------------------------------------------------------------------------------
ติดตามเราเป็นเพื่อนเฟสบุค   http://www.facebook.com/HealthyThailandCenter    
ติดตามกูรูด้านสุขภาพทางไลน์   http://line.me/ti/p/%40HealthyThailand
สนใจสินค้าสุขภาพและความงาม  http://goo.gl/oogIL8

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ทักทาย แนะนำ ติชม แสดงความคิดเห็น