*** สามารถติดตามเคล็ดลับสุขภาพดีดีที่ไลน์แอดไอดี @HealthyThailand หรือคลิก http://line.me/ti/p/%40healthythailand อย่าลืมคลิกมีกิจกรรมสนุกๆรับของรางวัลด้วยน้า ^

วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

เวชสำอาง คือ อะไร บทความโดยเภสัชกร

เวชสำอาง คือ อะไร บทความโดยเภสัชกร







คำว่า “เวชสำอาง” แปลมาจากคำว่า “cosmeceutical products” ซึ่งเป็นคำที่ไม่มีนิยามตามกฎหมาย (หมายถึงไม่มีประเทศใด ที่มีคำนี้ในกฎหมายของเขา) ไม่ว่าจะจากองค์การอาหารและยา (อย.) ของเมืองไทย อเมริกา หรือประเทศกลุ่มยุโรป แต่มีความหมายเดียวกับผลิตภัณฑ์ที่จัดอยู่ในกลุ่ม “quasi-drug” ของญี่ปุ่น (แต่ของญี่ปุ่นเค้ามี regulation เฉพาะสำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้)

ในเมื่อ คำว่า “เวชสำอาง” แปลมาจากคำว่า “cosmeceutical products” ก็หมายความว่า บ้านเราเอาศัพท์ฝรั่งมาแปลเรียกกันเอง และคำว่า เวชสำอาง ก็ไม่มีนัยใดๆสำหรับกฏหมายบ้านเราเช่นกัน


ขณะที่ “เครื่องสำอาง" หมายถึง สิ่งปรุง รวมทั้งเครื่องหอม และสารหอมต่างๆ ที่ใช้บนผิวหนัง หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายมนุษย์ ที่มุ่งหมายสำหรับทำความสะอาด ป้องกัน แต่งเสริม เพื่อความงาม หรือเปลี่ยนแปลงรูปลักษณะ โดย ถู ทา พ่น หรือโรยเป็นต้น” โดยที่ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของร่างกาย แต่......เวชสำอางใช้แล้วมันดันให้ผลต่อการเปลี่ยนแปลงของร่างกายได้ หรือเรียกได้ว่าเป็น functional cosmetics มันก็เลยมีชื่อกึ่งๆระหว่างยากับเครื่องสำอางว่า “เวชสำอาง” ซึ่งสารออกฤทธิ์ที่ถือเป็นเวชสำอางได้แก่ Vitamin ต่างๆ, Antioxidants, Hydroxy acids, Growth Factors, Hormones, Peptides, Glycosaminoglycans และสารสกัดจากพืชบางชนิด


ในทางกฎหมายไม่มีประเภทผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่เรียกว่า “เวชสำอาง” ในการโฆษณาสินค้าเหล่านี้ทางกฎหมายจึงถือเป็นเครื่องสำอาง จึงต้องโฆษณาให้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลการโฆษณาเครื่องสำอางตามบทบัญญัติของ พระราชบัญญติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2535 และพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ต้องไม่โฆษณาคุณสมบัติมากไปกว่าการเป็นเครื่องสำอาง ดังนั้นอย่างคำว่าใช้แล้ว ขาว ก็ใช้ไม่ได้ เป็นการโอ้อวดเกินจริง ต้องเลี่ยงไปใช้คำว่า “ทำให้ผิวแลดูกระจ่างใส” แทน เป็นต้น

จะว่าไปแล้ว สำหรับในเมืองไทยเรา มีผลิตภัณฑ์ที่ดูคล้ายเป็นเครื่องสำอาง หรือเวชสำอาง แต่จริงๆแล้วจัดเป็น ยา อยู่บ้างเหมือนกัน และบางร้านก็เอามาประกาศขายหน้าเวบ โดยที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังขาย ยา เช่น CM-lotion (โลชั่น clindamycin แต้มสิว) ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ต้องมีเลขทะเบียน อย. กำกับ (เลขทะเบียนบนเครื่องสำอาง จะไม่มีคำว่า อย. นำหน้าตัวเลข จะแสดงเฉพาะตัวเลขเท่านั้นค่ะ)

สินค้าของ pharmabeautycare บางตัวเป็นเวชสำอาง (cosmeceutical products) สามารถใช้ร่วมกับเครื่องสำอางที่วางขายทั่วไปตามเชลฟ์หรือ ในเคาน์เตอร์ห้างได้ ไม่มีปัญหา หรือแม้แต่เครื่องสำอางที่ขายบนเน็ตก็ใช้ได้เช่นกัน เพราะถ้าขายบนเน็ตได้ แสดงว่าเครื่องสำอางเหล่านั้นไม่ได้ผสมยา ถึงขายได้ เพราะถ้าผสมยาเมื่อไหร่ จะจัดเป็น ยา ต้องจ่ายโดยแพทย์หรือขายในร้านขายยา (+/- ใบสั่งแพทย์) เท่านั้น


อย่าเพิ่งกลัว แค่ได้ยินว่า เวชสำอาง ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ใครก็ใช้กันค่ะ ที่สำคัญ คือ ต้องใช้ให้เป็น หมายความว่า ควรใช้ในการรักษาหรือฟื้นฟูผิว เมื่อผิวกลับมาเป็นปกติหรือดีขึ้นแล้ว ควรพักผิวและกลับมาใช้สกินแคร์ปกติทั่วไปค่ะ

สำหรับบางร้าน ที่เคลมว่าผลิตภัณฑ์ในร้านขายครีมสมุนไพร 100% ปลอดภัยแน่นอน ไม่ใช่เวชสำอาง คงต้องทำความเข้าใจใหม่ รวมไปถึงผู้ซื้อด้วยเช่นกัน อย่าเชื่อทุกอย่างที่มีคนมาบอก ขอให้ศึกษาอ่านเองเพิ่มเติมบ้าง จะได้ไม่ถูกหลอกค่ะ

ลองดูใหม่ว่า มีสินค้าสักตัวมั๊ย ที่มีส่วนผสมอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ Vitamin ต่างๆ, Antioxidants, Hydroxy acids (AHA. BHA) , Growth Factors, Hormones, Peptides , Glycosaminoglycans และสารสกัดจากพืชบางชนิด ถ้ามีก็จัดเป็น เวชสำอาง แล้วค่ะ


------------------------------------------------------------------------------------

ติดตามเราเป็นเพื่อนเฟสบุค   http://www.facebook.com/HealthyThailandCenter    
ติดตามกูรูด้านสุขภาพทางไลน์   http://line.me/ti/p/%40HealthyThailand
สนใจสินค้าสุขภาพและความงาม  http://goo.gl/oogIL8

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ทักทาย แนะนำ ติชม แสดงความคิดเห็น