*** สามารถติดตามเคล็ดลับสุขภาพดีดีที่ไลน์แอดไอดี @HealthyThailand หรือคลิก http://line.me/ti/p/%40healthythailand อย่าลืมคลิกมีกิจกรรมสนุกๆรับของรางวัลด้วยน้า ^

วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ปัสสาวะเล็ด ปัสวะบ่อยเกิดจากอะไร ปัญหาที่ไม่เล็กของผู้หญิง

ปัสสาวะเล็ด ปัสวะบ่อยเกิดจากอะไร ปัญหาที่ไม่เล็กของผู้หญิง

ปัสสาวะเล็ด เป็นปัญหาที่พบกันมากโดยเฉพาะในเพศหญิง เนื่องจากปัจจัยบางอย่าง เช่น การตั้งครรภ์ การคลอด การผ่าตัดทางนรีเวช โดยเฉพาะการผ่าตัดมดลูก จากการศึกษาพบว่า ประชากร 1 ใน 5 ที่เป็นโรคนี้เป็นหญิงมากกว่าชายถึง 3 เท่า
   ปัสสาวะเล็ด      
      ความเข้าใจผิดที่ว่า อายุที่มากขึ้นเป็นปัจจัยหลักทำให้เกิดโรค ประกอบกับรู้สึกอายุที่เป็นผู้ที่เป็นโรคนี้ จึงมักมาพบแพทย์เมื่อเป็นมานานหรือมีอาการมากแล้ว ทั้งที่จริงๆ แล้วปัสสาวะเล็ดเกิดขึ้นได้กับคนทุกวัย
หลากสาเหตุ… ปัสสาวะเล็ด
      สาเหตุสำคัญคือความผิดปกติที่เกิดขึ้นทั้งส่วนในของการทำงาน และด้านกายภาพของอวัยวะที่มีส่วนในการควบคุมการปัสสาวะ เช่น สมองและระบบประสาทที่ควบคุมการกลั้นและขับปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะ ท่อปัสสาวะ ระบบหูรูด และกล้ามเนื้อในอุ้งเชิงกราน
         ในวัยเด็ก เกิดจากระบบการควบคุมการปัสสาวะยังไม่เข้าที่และพฤติกรรม รวมทั้งอุปนิสัยบางอย่าง มักออกมาในรูปแบบการปัสสาวะรดที่นอนตอนกลางคืน
         ในวัยสาว มักเกิดจากอุปนิสัยบางอย่างที่ไม่เหมาะสม เช่น ดื่มน้ำน้อย กลั้นปัสสาวะบ่อยๆ หรือเป็นเวลานาน ทำให้กระเพาะปัสสาวะเกิดการบีบตัวผิดปกติจนกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
      สำหรับวัยกลางคน คนที่เคยตั้งครรภ์หรือเคยผ่าตัดมดลูกมาก่อน อาจมีการเสื่อมของหูรูดและการหย่อนยานของผนังช่องคลอด รวมทั้งบริเวณคอกระเพาะปัสสาวะ ทำให้บริเวณคอกระเพาะปัสสาวะปิดไม่สนิท เกิดอาการปัสสาวะรั่วออกมาได้  ในวัยสูงอายุและประจำเดือนหมดแล้ว ฮอร์โมนเพศหญิงจะลดลง ทำให้เยื่อบุในท่อปัสสาวะขาดความยืดหยุ่น ระบบการปิดกลั้นปัสสาวะของท่อปัสสาวะลดลง ทำให้ปัสสาวะรั่วซึมได้เช่นกัน
นี่แหละ…อาการบ่งชี้ ปัสสาวะเล็ด
      หลากอาการของ ปัสสาวะเล็ด ได้แก่  มีความรู้สึกว่าจะต้องปัสสาวะ แต่ไม่สามารถไปปัสสาวะได้ทัน  ไอ จาม มีปัสสาวะเล็ดออกมา อาการปัสสาวะไหลราดโดยไม่รู้ตัว ปัสสาวะไหลราดตลอดเวลา ปัสสาวะรดที่นอน หรือปัสสาวะหยดหลังการปัสสาวะ
หนทางแก้ไข ปัสสาวะเล็ด
      การรักษาขึ้นกับสาเหตุของโรคว่า เกิดความบกพร่องที่อวัยวะในการควบคุมการปัสสาวะส่วนใดโดยทั่วไปแนวทางในการรักษามีอยู่ 3 วิธี คือ พฤติกรรมบำบัด การรักษาทางยา และการผ่าตัด ผู้ที่มีอาการไม่มากควรเริ่มจากการทำพฤติกรรมบำบัด นั่นคือการฝึกกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานโดยการขมิบหูรูด ลักษณะเหมือนตอนที่กลั้นปัสสาวะ ทำอย่างน้อยวันละ 100 ครั้ง แล้วเพิ่มจำนวนครั้งขึ้นเรื่อยๆ วิธีการนี้ต้องมีความอดทน เพราะต้องใช้เวลานับเดือนกว่าจะเห็นผลและควรทำต่อเนื่องเพื่อลดการเกิดซ้ำ
      บางครั้งก็ต้องร่วมกับการรักษาทางยา เช่น ยาช่วยในการบีบตัวของกล้ามเนื้อบริเวณท่อปัสสาวะ ยาลดการบีบตัวของกระเพาะปัสสาวะ เป็นต้น หรือใช้อุปกรณ์ในการลดการรั่วซึมของปัสสาวะ เช่น อุปกรณ์สอดช่องคลอด เพื่อยกและกดบริเวณทางออกหรือคอของกระเพาะปัสสาวะไว้ หรืออุปกรณ์สอดใส่ท่อปัสสาวะ หรือการใช้ผ้าอนามัยเพื่อซับน้ำปัสสาวะที่รั่วซึมไว้
      แต่ถ้ามีอาการมากจำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัด เช่น ในกรณีที่มีการหย่อนของคอกระเพาะปัสสาวะ จะทำการผ่าตัดเพื่อพยุงบริเวณคอกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะส่วนต้นไว้ ถ้ามีการหย่อนของผนังช่องคลอดร่วมด้วยก็จะทำการผ่าตัดซ่อมแซมผนังช่องคลอด ที่เราเรียกกันทั่วไปว่าการทำรีแพร์ด้วย
4 วิธีง่ายๆ ป้องกัน ปัสสาวะเล็ด ได้
       1.ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว
       2.ไม่ควรกลั้นปัสสาวะบ่อยๆ หรือนานเกินไป เพื่อป้องกันภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวผิดปกติ
       3.หลีกเลี่ยงภาวะที่ต้องใช้แรงเบ่งภายในช่องท้องมากและอาการท้องผูก
      4.ออกกำลังกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานโดยการขมิบหูรูดเป็นประจำ เพื่อเพิ่มความกระชับ และยังช่วยให้ระบบการขับถ่ายดียิ่งขึ้นด้วย
         ปัญหาใหญ่ก็กลายเป็นปัญหาเล็กๆ ที่ป้องกันและแก้ไขได้ เพียงแค่ปรับพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค และหมั่นดูแลตัวเองด้วยวิธีง่ายๆ เหล่านี้ คุณผู้หญิงยุคใหม่ก็ห่างไกลโรคปัสสาวะเล็ดแล้วค่ะ

------------------------------------------------------------------------------------
ติดตามเราเป็นเพื่อนเฟสบุค   http://www.facebook.com/HealthyThailandCenter    
ติดตามกูรูด้านสุขภาพทางไลน์   http://line.me/ti/p/%40HealthyThailand
สนใจสินค้าสุขภาพและความงาม  http://goo.gl/oogIL8

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ทักทาย แนะนำ ติชม แสดงความคิดเห็น