วิธีรักษาสิวแบบประหยัด
ใครที่เป็นสิวบ่อย ๆ แล้วไม่อยากไปรักษาแพง ๆ วันนี้เกร็ดความรู้มีวิธีรักษาแบบประหยัดมาฝากกัน...
- ต้องถ่ายน้ำเหลืองออกจากตัวบ้าง ด้วยการไปซื้อ "ดีเกลือฝรั่ง" มารับประทาน ราคาก็ไม่แพงมากนัก
- ควรลดอาหารประเภทมีไขมันสูงและเผ็ดจัด เช่น อาหารที่ทำจากกะทิ ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็จะดี เพราะไขมันเหล่านี้จะทำให้รูขุมขนอุดตัน ส่วนความเผ็ดจะเร่งให้สิวเกิดมากขึ้น
- ใช้ปลายนิ้วถูตามใบหน้าแรง ๆ เพื่อให้กากไขมันหลุด แต่ไม่ต้องแรงมากจนเป็นผื่นแดงเพราะจะทำให้ใบหน้าเป็นแผลและมีอาการแสบได้
- ทุกครั้งที่หน้าเปียกให้เช็ดหน้าให้แห้งทันที โดยการซับหน้าเบา ๆ
- ต้องงดใช้เครื่องสำอางเพื่อเพิ่มความสวยทุกชนิดสักระยะ แม้แต่แป้งก็ห้ามใช้ ทั้งนี้เพื่อรักษาใบหน้าให้สะอาด แห้ง และจะได้ไม่มีอะไรมาอุดตันรูขุมขน
- ควรรับประทานผักและดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อระบบขับถ่ายที่ดี เพราะการที่เบ่งอุจจาระก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสิวได้

อาหารป้องกันสิว
สำหรับเรื่องอาหาร พบว่า มีการใช้สารอาหารบางชนิดในการป้องกันและ รักษาสิว เช่น วิตามินเอ วิตามินบีรวม วิตามินซี วิตามินดี และวิตามินอี แร่ธาตุ เช่น แคลเซียม โพแทสเซียม โครเมียม กำมะถันและสังกะสี ทั้งในรูปของการกินและการใช้ทาภายนอก สารอาหารดังกล่าวพบได้ในอาหารทั่วไป ดังนั้น เพื่อเป็น การป้องกันสิว วัยรุ่นควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และให้มีความหลากหลายในแต่ละหมู่ ในปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย โดยเฉพาะสังกะสีซึ่งมีมากในข้าวกล้อง ถั่วเหลือง อาหารทะเล เครื่องในสัตว์ ไข่ และ ตับ เพราะสังกะสีเป็นสารจำเป็นสำหรับการทำงานของต่อมไขมันและสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ดังนั้น การกินอาหารที่ให้วิตามินและแร่ธาตุเพียงพอ
ร่วมกับการปฏิบัติอื่นๆ ดังกล่าวข้างต้นจะช่วยป้องกันสิวได้
สิวเสี้ยนเกิดจากการอุดตันภายในรูขุมขน ไม่ว่าการอุดตันนั้นจะเกิดจากการทำความสะอาดได้ไม่ดีพอ หรือจากการใช้ผลิตภัณฑ์ในการดูแลผิวที่ก่อให้เกิดการอุดตันก็ตาม การดูดสิวเสี้ยนจะยิ่งทำให้รูขุมขนกว้างขึ้น ทำให้เกิดการอุดตันได้ง่ายขึ้น และทำให้สิวเสี้ยนเกิดขึ้นได้ซ้ำอีก
คนที่มีผิวมัน ต้องพยายามเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ในการดูแลผิวที่ปราศจากน้ำมัน 100% รวมทั้งเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ในการควบคุมความมันร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นฟิล์มซับมัน หรือแป้งที่มีคุณสมบัติในการดูดซับความมัน ฯลฯ ถ้าควบคุมความมันได้ ปัญหาสิวก็จะลดลงค่ะ
ส่วนรอยแผลดำ ๆ จากสิว เกิดจากการอักเสบของสิว การบีบหรือแกะสิว ซึ่งทำให้ผิวปกป้องตนเองด้วยการปล่อยเม็ดสีออกมาในบริเวณนั้น และเกิดเป็นรอยดำ ซึ่งรอยดำเหล่านี้จะค่อย ๆ จางลงไปได้เองตามกระบวนการผลัดเปลี่ยนเซลล์ของผิว โดยไม่ต้องทำอะไรเลยค่ะ แต่ถ้าใจร้อนอยากให้รอยแผลจางลงเร็วขึ้น ในปัจจุบันก็มีการใช้โลชั่นที่มีส่วนผสมของ AHA หรือ BHA ในปริมาณความเข้มข้นไม่เกิน 5% ทาบาง ๆ ทุกวัน เช้า - เย็น ก็จะทำให้รอยจางลงได้ แต่ต้องแน่ใจว่าผิวไม่แพ้สารเหล่านี้นะคะ
อยากรู้ว่าทำอย่างไรให้สิวหาย
1. ทำความสะอาดปลอกหมอน ผ้าปูที่นอนให้บ่อยขึ้น
2. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิวโดยไม่ต้องใช้หลายยี่ห้อ เลือกชนิดที่ผิวหน้าไม่แห้งตึง และไม่เหนียวเหนอะหนะ ล้างหน้าให้สะอาดโดยเฉพาะตอนเย็น ควรล้างด้วยเคล็นเซอร์อย่างน้อย 2 - 3 ครั้ง
3. ช่วงที่เป็นสิว แนะนำให้หยุดครีมบำรุงผิวไว้ก่อนนะคะ แก้ปัญหาสิวให้จบ แล้วค่อยบำรุงทีหลังก็ไม่สายค่ะ
4. พยายามนอนให้เร็วขึ้น และอย่าให้ท้องผูก
5. ความเครียด การคิดมาก ก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เป็นสิว หาอะไรทำให้ผ่อนคลาย อ่านหนังสือ ฟังเพลง ฯลฯ
6. อย่าเพิ่งใช้ยาอะไรทาผิวหน้าในช่วงนี้ รักษาความสะอาดให้ดีก่อน แล้วปัญหาสิวจะค่อย ๆ ลดลงได้เองค่ะ หลีกเลี่ยงการใช้มือจับหน้าในระหว่างวัน และไม่ควรใช้ผ้าขนหนูเช็ดหน้านะคะ ให้ใช้กระดาษทิชชูกล่องซับแทน ฯลฯ
วิธีการดูแลให้ผิวใสไร้สิวด้วยตัวเราเองนั้นไม่ยากเลย เพียงแค่ล้างหน้าให้สะอาดด้วยเคล็นเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิว โดยเฉพาะในตอนเย็นควรล้าง 1 - 2 ครั้ง จนแน่ใจว่าผิวสะอาด หลีกเลี่ยงการใช้มือที่ไม่สะอาดจับใบหน้า ระวังอย่าให้ท้องผูก ทานผัก ผลไม้ และดื่มน้ำมาก ๆ และไม่ควรนอนดึก ฯลฯ
ถ้าเราล้างหน้าได้สะอาดหมดจดจริง ๆ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน ก็จะช่วยทำให้รูขุมขนดูเหมือนว่ามีขนาดเล็กลง ผิวละเอียดขึ้น
------------------------------------------------------------------------------------
ติดตามเราเป็นเพื่อนเฟสบุค http://www.facebook.com/HealthyThailandCenter
ติดตามกูรูด้านสุขภาพทางไลน์ http://line.me/ti/p/%40HealthyThailand
สนใจสินค้าสุขภาพและความงาม http://goo.gl/oogIL8
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น